อริยบุคคลโสดาบัน

21 ก.พ. 2567 | 20:40 น.

อริยบุคคลโสดาบัน คอลัมน์ ทำมา ธรรมะ โดย ราชรามัญ

คำว่า "อริยบุคคลโสดาบัน" นักบวชก็เป็นได้

คนธรรมดาก็เป็นได้ เพียงแต่ความละเอียดของธรรมนั้นอาจมีความแตกต่างกันออกไป

โสดาบัน คือ มนุษย์ที่ยังมีความโลภ ความโกรธ และ ความหลง มีกิเลสเหมือนคนทั่วไปทุกอย่าง มีครอบครัวได้ เพียงแต่ทุกครั้งที่กิเลสมาโสดาบันจะสามารถดับลงได้เร็วกว่ามนุษย์ธรรมดาปกติทั่วไป

เวลาโกรธใคร ก็ตัวสั่นปากสั่น แต่ไม่ทำอะไรใครไม่กล่าวคำหยาบให้ผิดศีล ไม่กล่าวคำโกหกใดๆ สัก 5 นาที ความโกรธก็จางคลายค่อยๆ หายไปทีละน้อย แล้วกลับสู่ปกติ

 

หลายคนเข้าใจผิด คิดว่าโสดาบันต้องมีสติโดยรอบเหมือนอรหันต์ อริยบุคคลโสดาบัน เหมือนคนปกติทุกอย่าง ทำงานทำมาหากิน เพียงแต่ศีล 5 ในบุคคลที่เป็นโสดาบันนั้นมีอยู่อย่างปกติ แบบเป็นธรรมชาติอัตโนมัติ ไม่ผิดเลยแม้แต่สักข้อเดียว ถ้าเป็นนักบวชก็รักษาธรรมวินัยได้ดี อาจมีบกพร่องบ้างแต่ศีลครบทั้งสิบข้อ

อัตตา ของโสดาบันนั้นยังมีอยู่เพราะยังมิได้ละมานะ แต่อัตตาที่ถูกละไปนั้นจะเป็นในมุมสักกายะทิฐิ คือ ความยึดมั่นถือมั่นในร่างกาย คำว่า อัตตาที่สื่อถึงอีโก้ กับ สักกายะทิฐิ ต่างกัน ด้วยเหตุนี้ อีโก้ของโสดาบันเป็นอีโก้เรื่องธรรมะ ไม่ใช่อีโก้แบบแสดงอวดข่มผู้อื่นด้วยธรรม 

ความสงสัยที่ว่า ปฏิบัติธรรมได้อะไร ธรรมะมีจริงไหม กฎแห่งกรรม นรกสวรรค์มีจริงเหรอ เหล่านี้จะไม่มีความสงสัยในใจของอริยบุคคลโสดาบันแล้ว เพราะละซึ่งวิจิกิจฉา ความสงสัยทุกข้อเกี่ยวกับธรรมะ 

อริยบุคคลโสดาบัน ยังฟังเทศน์ฟังธรรมไหว้พระสวดมนต์ภาวนาตามปกติ แต่ไม่มีการร้องขออะไรในใจ อาทิ ขอให้โชคดี ขอให้รวย ขอให้สำเร็จต่างๆ นานา เพราะการร้องขอแบบนี้เป็นลีลัพพตปรามาส ลูบๆ คลำๆ ในศีลในธรรม แม้แต่เป่าเสกเลขยันต์รดน้ำมนต์ อริยบุคคลโสดาบันทั้งพระทั้งโยมที่เข้าถึงโสดาบันจะไม่ทำสิ่งเหล่านี้เด็ดขาดเพราะเห็นซึ่งโทษแล้ว

 

ในมุมเชิงปฏิบัติการภาวนาของโสดาบัน จะเป็นการเฝ้าสังเกตภาวะการเกิดดับของทุกสรรพสิ่งในร่างกาย ไม่ใช่ภาวนาเพื่อฌาน เพื่อความสงบสุขปีติในสมาธิใดๆ เพราะการเฝ้าสังเกตอาการการเกิดการดับ คือ การภาวนาลัดตรงตามหลักมหาสติปัฏฐาน

การบอกให้ผู้อื่นทราบว่าตนเข้าถึงธรรมหรือบรรลุธรรมเป็นโสดาบัน เขาจะไม่พึงพูดอวดตัวตนทั้งที่มีอีโก้แต่ไม่แสดงในสิ่งเหล่านั้นเลย ส่วนผู้ที่ยังประกาศตนว่าเป็นอะไรๆนั้น ร้อยทั้งร้อยปลอมทั้งสิ้น หรือไม่อารมณ์สมาธิพาไปสู่สภาวะธรรมแบบองค์ฌาน จิตก็ไหลตาม

อริยบุคคลโสดาบัน นับได้ว่าเป็นผู้มีบุญบารมีเช่นกันเพราะกลับมาเกิดอีกแค่เพียง 7 ครั้งก็บรรลุอรหันต์ ส่วนโสดาบันตามสื่อติ๊กต๊อกอันนี้ก็ต้องพิจารณากันให้ดีๆ อาจจะกลายเป็นเหยื่อได้

สรุปก็คือบุคคลธรรมดา ที่ใช้ชีวิตเรียบง่าย และเป็นบุคคลที่เข้าถึงสัจธรรมเลยแท้จริง เพียงแต่ต้องค่อยๆ ฝึกสะสมไป ในด้านการภาวนา ก็จะทำให้บุคคลนั้น สามารถเข้าสู่อรหันต์ แบบผู้ไม่ต้องกลับมาเกิดอีกต่อไป