KEY
POINTS
วันหนึ่งขณะเดินไปตามทางสนามหญ้า ได้เห็นสิ่งมีชีวิตอย่างอื่นที่ไม่ใช่มนุษย์ อยู่ซึ่งหน้ามากเหลือเกิน กระทั่งใจหายแว๊บ... พยายามตั้งสติกลับมาอยู่กับกายใจของตนเองอีกครั้ง แต่เบื้องลึกในจิตใต้สำนึกนั้นยังคงคิดย้ำๆ ซ้ำๆ วนไปมา
มองข้ามไปบนฟ้า นกกาโบกโบยโผบิน มองไปในน้ำ เต่าปลาว่ายทวนกระแสน้ำ นี่คือ สิ่งมีชีวิตอย่างอื่นที่ไม่ใช่มนุษย์ที่ผมหมายถึงแต่ต้น ความที่เขียนคล้ายเรียนกระทู้ธรรม
สลดสังเวชในใจ... หนึ่งสัตว์ตัวตนก็หนึ่งจิตวิญญาณ นกพิราบทั่วประเทศกี่ล้านตัวจำนวนจิตวิญญาณก็เท่านั้น นกกา เต่า ปลา สุนัข แมว ช้าง ม้า วัว ควาย เสือ ฯลฯ เมื่อรวมหลายสายพันธุ์ ก็มีจำนวนมากกว่า 100 ล้านตัว ร้อยล้านจิตวิญญาณ คำตอบที่ได้จากการคิดนี้ คือ สิ่งมีชีวิตอย่างอื่นมีมากกว่ามนุษย์ แสดงว่า การเกิดที่จะได้อัตภาพความเป็นมนุษย์นี้แสนยากเหลือเกิน ยากมากจริงๆ
กิจฺโฉ มนุสฺสปฏิลาโภ กิจฺฉํ มจฺจาน ชีวิตํ กิจฺฉํ สทฺธมฺมสฺสวนํ กิจฺโฉ พุทฺธานมุปฺปาโท
แปลความว่า...
ความได้อัตภาพเป็นมนุษย์ เป็นการยาก, ชีวิต ของสัตว์ทั้งหลาย เป็นอยู่ยาก, การฟังพระสัทธรรม เป็นของยาก การอุบัติขึ้นแห่งพระพุทธเจ้าทั้งหลาย เป็นการยาก
นี้เป็นข้อความในพระไตรปิฎก
ส่วนในอรรถกถาได้แก้อรรถไว้ว่า..
"ก็ขึ้นชื่อว่า ความได้อัตภาพเป็นมนุษย์ ชื่อว่าเป็นการยาก คือหาได้ยาก เพราะความเป็นมนุษย์ บุคคลต้องได้ด้วยความพยายามมาก ด้วยกุศลมาก ถึงชีวิตของสัตว์ทั้งหลาย ก็ชื่อว่าเป็นอยู่ยาก เพราะทำกรรมมีกสิกรรมเป็นต้นเนืองๆ แล้วสืบต่อความเป็นไปแห่งชีวิตบ้าง เพราะชีวิตเป็นของน้อยบ้าง แม้การฟังพระสัทธรรม ก็เป็นการยาก เพราะค่าที่บุคคลผู้แสดงธรรมหาได้ยาก ในกัปแม้มิใช่น้อย"
ก็จริงตามท่านสอน กว่าจะได้เกิดมามีศีรษะตรง มีปาก มีตาหูจมูก มีความสามารถคบคิดพิจารณา การใช้การอยู่ ให้ดำรงได้แบบมนุษย์นี้ยากมาก ต้องมีบุญมากพอสมควร และถ้ามีความรู้ ความสามารถมีฐานะดีต้องมีความพร้อมขนาดไหน อีกทั้งถ้ามีอำนาจมีวาสนาบารมี ปกครองคนทั้งหลายต้องมีบุญญาธิการอีกมากเพียงไหน เขาจึงสอนกันว่า ไปยุ่งวุ่นวายกับ ทำร้ายคนมีบุญ มีบารมี ชีวิต อาจจะวิบัติได้ ตัวอย่างง่ายๆ พวกกุ๊ย2475 ไปวุ่นวายกับสถาบันพระมหากษัตริย์ กระทั่งปลายชีวิตไปนอนตายไร้ลมในต่างแดน แสนหดหู่ใจ
ธรรมที่จะส่งเสริมให้เราได้เป็นมนุษย์ คือ ศีล5 ครบบริสุทธิ์ทุกวินาที และผนวกด้วยบุญกิริยาวัตถุ 10 หมายถึง ที่ตั้งแห่งการกระทำความดี 10 อย่าง หมายถึง กุศลจิตที่มีกำลังจนทำให้มีการกระทำออกมาทางกาย วาจาหรือทางใจ ได้แก่ ...
1. ทานมัย บุญสำเร็จจากการให้วัตถุเพื่อสงเคราะห์หรือบูชาแก่ผู้อื่น
2. ศีลมัย บุญสำเร็จจากการงดเว้นจากทุจริต หรือประพฤติสุจริต ทางกาย วาจา
3. ภาวนามัย บุญสำเร็จจากการอบรมจิตให้สงบจากกิเลส (สมถภาวนา) และการอบรมปัญญาเพื่อละกิเลสทั้งปวง (วิปัสสนาภาวนา)
4. อปจายนมัย บุญสำเร็จจากการประพฤติอ่อนน้อมถ่อมตน
5. เวยยาวัจจมัย บุญสำเร็จจากการขวนขวายบำเพ็ญประโยชน์ต่อผู้อื่น
6. ปัตติทานมัย บุญสำเร็จจากการให้ส่วนบุญที่ได้บำเพ็ญมาแล้ว
7. ปัตตานุโมทนามัย บุญสำเร็จจากการยินดีในกุศลที่ผู้อื่นได้กระทำแล้ว
8. ธัมมัสสวนมัย บุญสำเร็จจากการฟังพระสัทธรรม
9. ธัมมเทสนามัย บุญสำเร็จจากการแสดงพระสัทธรรม
10. ทิฏฐุชุกรรม การกระทำความเห็นให้ตรงถูกต้องตามความเป็นจริง
ซึ่ง บุญ กุศลทั้ง 10 ประการ สามารถทำให้เกิดในสุคติภูมิ และ เกิดเป็นมนุษย์
ผมนี่เคยเป็นบุคคลหนึ่ง ที่เคยตำหนิติเตียนพระภิกษุที่ประพฤติปฏิบัติ ไม่ดีไม่งามตามธรรมวินัย ด้วยใจคิดว่านั่นคือ การปกป้องพระพุทธศาสนา แต่ความจริงแล้วนั่นคือ การสร้างกรรม สร้างนรกให้ตนเองมากกว่า จึงเลิกการทำเช่นนั้น
ต่อมาเมื่อพบพระที่ปฏิบัติไม่ดีผมจะร้องไปยังสงฆ์ฝ่ายปกครองแทน ให้พระกับพระท่านว่ากันเองเหมาะสุด อย่างน้อยเราก็ยังให้เกียรติธงชัยพระอรหันต์ที่มีมาแต่อดีตกาลด้วย เลิกสร้างอกุศลกรรม ที่มีวิบากแห่งนรกภูมิให้แก่ตนได้ ย่อมมีอัตภาพความเป็นมนุษย์ที่มีความสุขที่สุดแล้ว