อัพเดทกรุงย่างกุ้ง เมียนมา

18 ก.ย. 2565 | 22:22 น.

คอลัมน์เมียงมอง เมียนมา โดย กริช อึ้งวิฑูรสถิตย์

เมื่อกลางอาทิตย์ที่ผ่านมา ผมได้เดินทางเข้าไปกรุงย่างกุ้ง เพราะต้องมีภารกิจในการดำเนินงานของบริษัทผมที่นั่น ซึ่งการไปครั้งนี้ ผมได้มีเพื่อนทั้งจากกรุงเทพและจากสิงคโปร์เดินทางไปด้วย เราได้มีภารกิจในการเดินทางไปเยี่ยมชมโรงงานของเพื่อน ที่นิคมอุตสาหกรรมในกรุงย่างกุ้งสามแห่งด้วยกัน ทำให้ได้เห็นภาพค่อนข้างจะอัพเดทของกรุงย่างกุ้ง จึงอยากจะนำมาเล่าให้ฟังครับ
 

วันที่เราเดินทางไป เราต้องทำการตรวจ RT-PCR ก่อนออกเดินทาง 24 ชั่วโมง การไปครั้งนี้ผมตั้งใจไว้ว่าอยากจะอุดหนุนสายการบินนกแอร์เป็นพิเศษ จึงไม่ได้นั่งสายการบินเมียนมาแอร์เวย์เหมือนทุกครั้งที่ไป ทำให้ต้องนอนตื่นตั้งแต่เช้ามืด เพราะสายการบินนกแอร์ไฟท์ออกเดินทางตอน 06:30 น. เราจึงต้องตื่นตั้งแต่ตีสี่ เพราะเกรงว่าจะเสียเวลาในการดำเนินพิธีการขาออก
 

เราไปถึงสนามบินแมงกะลาดองตั้งแต่เช้า 08:00 น. เพราะเวลาเมียนมาช้ากว่ากรุงเทพครึ่งชั่วโมง พอไปถึงตอนแรกก็ไม่แน่ใจว่าจะต้องมีการตรวจตราวีซ่าก่อนเข้าตรวจคนเข้าเมืองหรือไม่ แต่ปรากฎว่าขณะนี้ที่ประเทศเมียนมาได้ยกเว้นการขอวีซ่าก่อนเดินทางแล้ว ทุกอย่างจึงสะดวกมาก สามารถเดินตรงไปตรวจหนังสือเดินทางได้เลย
 

เมื่อรับกระเป๋าเสร็จ ก็มาตรวจ ATK อีกครั้ง ทั้งๆ ที่เราทำ RP-PCR มาแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่ได้ยุ่งยากหรือเป็นปัญหามากนัก เพียงแต่เราต้องเตรียมเงินจ๊าดไว้จ่ายค่า ATK ให้เจ้าหน้าที่ 15,000 จ๊าด ซึ่งหากไม่มีเงินจ๊าด เขาก็มีเตรียมเคาน์เตอร์แลกเงินไว้ภายในข้างสายพานรับกระเป๋า ไว้คอยบริการให้ แต่อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของธนาคารภายในอาคาร เขาคิดตามอัตราที่ทางการประกาศ ซึ่งก็ต่างจากที่อัตราตลาดมืดค่อนข้างจะเยอะมาก จึงขอแนะนำให้เราเตรียมเงินจ๊าดไปก่อนจะดีที่สุดครับ 

 

เมื่อออกมาจากสนามบิน ผมก็พาคณะไปทานอาหารเช้าที่ร้านประจำ เป็นน้ำชาพม่ากับโมฮินงา(ขนมจีนหยวกกล้วยของดีประเทศเมียนมา) ตามด้วยน่ำเปียะ (โรตีโอ่ง) ให้พอหายคิดถึงครับ จากนั้นก็กลับไปรอเพื่อนสิงคโปร์ที่ตามมาจากสิงคโปร์ เมื่อพบกันจนครบจำนวนคน เราก็เดินทางไปเยี่ยมชมโรงงานที่นิคมอุตสาหกรรมติลาว่า
 

ตอนไปที่นี่ในใจก็คิดว่าเราจะพบกับอะไรยังไม่ทราบ แต่พอเข้าสู่นิคมอุตสาหกรรมที่ในอดีตยุคก่อน COVID-19 นิคมฯนี้คึกคักมาก ทุกครั้งที่เข้าไปในนิคมฯจะต้องเข้าคิวรอเข้าประตูนิคมฯ ต่อท้ายรถบรรทุกเกือบทุกครั้ง แต่ครั้งนี้รถยนต์ที่อยู่หน้ารถที่ผมขับไป มีรถบรรทุกอยู่สามคันเท่านั้น พอขับรถเข้าไปในนิคมฯ ไม่น่าเชื่อว่าภายในเงียบเหงามากๆ โรงงานหลายแห่งเหมือนจะปิดดำเนินการ คนงานที่เคยเดินพลุกพล่านตลอด แต่วันนี้กลับเงียบเหงามากๆ รถยนต์ภายในนิคมฯก็ไม่ค่อยเห็นวิ่งไป-มาเหมือนสามปีที่แล้วเลยครับ ขาออกจากนิคมฯ รถบรรทุกที่รอออกจากนิคมฯก็มีเพียงสองคัน เป็นที่น่าหดหู่ใจจริงๆ ครับ
 

คืนนั้นเราไปทานอาหารกันที่ร้าน Manran เป็นอาหารรัฐยะไข่ ลูกค้าก็พอมีครับ แต่ไม่แน่นเหมือนอดีตอีกเช่นกัน พอทานข้าวเสร็จ ผมก็ชวนให้ขึ้นไปกราบพระมหาเจดีย์ชเวดากอง แต่ทุกคนบอกว่าเหนื่อยมาก เพราะเมื่อเช้าตื่นนอนกันตั้งแต่เช้ามืด ขอผลัดไปวันพรุ่งนี้ดีกว่า ก็เลยส่งทุกคนกลับไปพักที่โรงแรมกัน ส่วนผมก็กลับบ้านนอนครับ

 

วันต่อมา ผมก็พาไปเยี่ยมชมโรงานที่ผมไปร่วมทุนกับกลุ่มสิงคโปร์ ที่นิคมอุตสาหกรรมอะเชะตะกอง ก็ไม่มีอะไรมาก เพราะที่เปลี่ยนแปลงไป ก็จะมีแต่ถนนที่ดีขึ้น ก่อนหน้า COVID-19 จะมา ถนนกำลังก่อสร้างอยู่ เที่ยวนี้ไปก็สร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว ออกจากโรงงานผมก็ตรงไปเยี่ยมโรงงานย้อมผ้าของเพื่อน ที่นิคมตะโก่งเซกัน ซึ่งอยู่นิคมเดียวกับโรงงานปลากระป๋องของคุณวิชัย ปรากฎว่า เจ้กู (Google map) พาหลงทาง ทำให้เสียเวลาไปเกือบชั่วโมง
 

สรุปไปถึงโรงงานย้อมผ้าเจอคุณหนุ่ม ผู้จัดการโรงงาน เขาพาออกไปทานอาหารกลางวันเสร็จ เลยต้องไปเยี่ยมชมโรงานปลากระป๋องต่อเลย ทุกอย่างภายในโรงงาน มีแต่เสียงบ่นว่ายอดขายตกทั้งสองโรงเลยครับ คงไม่ใช่เฉพาะบริษัทของผม ที่นำเข้าสินค้าจากไทยเท่านั้น ที่ยอดขายตก ทุกโรงงานทุกบริษัท ก็จะพบชะตากรรมเหมือนๆ กันหมดเลยครับ
 

อีกทั้งค่าเงินที่อ่อนค่าลงไปมาก จากเดิมก่อนปฎิวัติ อยู่ที่ 1,350 จ๊าด หลังปฎิวัติจนถึงค่าเงินอ่อนค่าล่าสุด แล้วดีดกลับมาแข่งค่าอีกครั้ง ก็ยังคงอยู่ที่ 3,200 จ๊าด ขึ้นราคาสินค้าอย่างไรก็ตามอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราไม่ทัน ทำให้ทุกคนเจ็บตัวกันไปตามๆ กันเลยครับ มีเห็นดีอย่างเดียวคือถนนหนทาง ที่แม้จะอยู่นอกเมือง ก็ได้ถนนคอนกรีตใหม่กันเยอะเลยครับ
 

วันนั้นหลังจากเยี่ยมชมโรงงานจบ ก็พากันไปทานอาหารเย็น พอจบจากทานอาหารเย็นจะได้ไปกราบพระมหาเจดีย์ตามที่ได้ตั้งใจกันไว้ แต่พอทานอาหารเสร็จ ก็เกือบจะ 18:30 น.ไปแล้ว ทำให้ไม่สามารถไปกราบมหาเจดีย์ได้ เพราะเขาปิดไม่ให้ขึ้นไปก่อน 19:00 น. ครับ
 

ทริปนี้เลยไม่ได้ขึ้นบนพระมหาเจดีย์อีกตามเคย  ใครจะไปไหว้พระไหว้เจ้าที่กรุงย่างกุ้ง คงต้องเตรียมจัดเวลาให้ดีนะครับ ขอบอก..... !!!