มติศบค."ล็อกดาวน์" พื้นที่สีแดงเข้ม14วัน ห้ามออกจากบ้าน 21.00-04.00น.

09 ก.ค. 2564 | 07:04 น.
อัปเดตล่าสุด :09 ก.ค. 2564 | 15:51 น.

มติที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่ ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ให้ "ล็อกดาวน์กรุงเทพ-ปริมณฑล" พื้นที่สีแดงเข้มรวม 10 จังหวัดเป็นเวลา 14 วัน  ห้ามออกจากบ้านในช่วงเวลา 21.00-04.00น. เริ่ม 12 ก.ค.

วันที่ 9 ก.ค. 64 เวลา 13.30 น. รายงานข่าวเปิดเผยกับฐานเศรษฐกิจว่า มติที่ประชุมศบค. มีมติเกี่ยวกับมาตรการ "ล็อกดาวน์ - งดเดินทาง" ดังนี้ 

งดเดินทาง- ห้ามออกจากบ้านในเวลาที่กำหนด ในช่วงเวลา 21.00-04.00 น. เพื่อเป็นการยกระดับมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด19 

ซึ่งจะบังคับใช้กับพื้นควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 10 จังหวัด หรือพื้นที่สีแดงเข้ม ไม่ใช่เป็นการล็อกดาวน์หรือยกระดับทั้งประเทศ

โดย 10 จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม หรือ พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ได้แก่

  1. กรุงเทพมหานคร
  2. ปทุมธานี
  3. สมุทรปราการ
  4. สมุทรสาคร
  5. นนทบุรี
  6. นครปฐม
  7. นราธิวาส
  8. ปัตตานี
  9. ยะลา
  10. สงขลา

แต่ทั้งนี้มีรายละเอียดในข้อกำหนดแตกต่างกันไปเฉพาะบางส่วนเท่านั้น โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 12 ก.ค.เป็นต้นไป รวม 14 วัน

แต่ให้เริ่มตั้งด่านปฏิบัติงานตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค.(หลังเที่ยงคืนวันที่9ก.ค.) ส่วนกรณีถ้าฉีดวัคซีนแล้วสามารถเดินทางได้

ส่วนของร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ปิดเวลา 20.00 น. ห้ามรวมกลุ่มทำกิจกรรมเกิน 5 คน รถสาธารณะให้บริการถึง 21.30 น. 

อย่างไรก็ตามในรายละเอียดของมติศบค. จะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ เวลา 16.00น. ในวันนี้ เพื่อชี้แจงเกี่ยวกับข้อกำหนดและมาตรการบริหารสถานการณ์ ทางช่อง NBT และเพจ LiveNBT2HD หรือติดตามการสรุปมาตรการสำคัญได้ทางทวิตเตอร์

ด้าน นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ให้สัมภาษณ์ที่ที่กระทรวงสาธารณสุข หลังร่วมประชุม ศบค. ชุดใหญ่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้หารือกันในหลายเรื่อง พิจารณามาตรการต่างๆ รวมถึงการจัดสรรวัคซีนโควิด-19 ซึ่งมีความชัดเจนว่า หลักการปิดกั้นการเคลื่อนที่ ล็อกดาวน์ให้ประชาชนอยู่กับบ้านป้องกันการระบาดของเชื้อ

จะใช้ชีวิตนอกบ้านได้เท่าที่จำเป็น เช่น หาหมอ ซื้ออาหาร ฉีดวัคซีนโควิด-19

“การพิจารณาแต่ละเรื่องมีหลักการใหญ่ แต่จะมีข้อยกเว้น ส่วนการห้ามเคลื่อนย้ายออก 10 จังหวัด คือ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวม 7 จังหวัด และจังหวัดชายแดนภาคใต้อีก 3 จังหวัด ที่ห้ามออกนอกพื้นที่จังหวัด แต่ผู้ที่มีความจำเป็น ขึ้นอยู่กับประกาศจากผู้ว่าราชการจังหวัด ว่าต้องปฏิบัติอย่างไร เพื่อให้มีความชัดเจนว่า

เช่น หากจะเดินทางจาก พระนครศรีอยุธยา มา กรุงเทพฯ จะมาได้หรือไม่ หรือคนกรุงเทพฯ จะไปนครราชสีมา จะต้องปฏิบัติอย่างไร ต้องขออนุญาตอย่างไร ซึ่งจะให้เวลาผู้ว่าราชการจังหวัด แต่ละจังหวัดไปออกประกาศ

ส่วนการปิดกิจกรรมต่างๆ ส่วนใหญ่จะปิด เปิดเฉพาะซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านยา และร้านอาหารก็ให้ซื้อกลับบ้าน ร้านนวดปิดทั้งหมด ส่วนรถสาธารณะ ลดการเคลื่อนย้าย ก็จะลดเวลาให้บริการ ปิดประมาณ 3 ทุ่มครึ่ง ถึงตี 5”

นายสาธิต กล่าวว่า ทั้งหมดนี้จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 12 ก.ค. แต่ในช่วงเวลาพรุ่งนี้ (10 ก.ค.) จะมีการปิดกั้นการเคลื่อนย้ายผู้คน หรือลดการออกจากบ้าน จะมีรถสายด่วนตรวจเฉพาะกิจพิเศษ จากฝ่ายความมั่นคงทั้งตำรวจ ทหาร เพื่อซ้อมและให้ประชาชนเตรียมตัวในการไม่ออกจากบ้าน และจะมีการใช้กฎหมายในทุกมาตรการอย่างเค่รงครัด

โดยจะมีการประเมิน 14 วัน ซึ่งในช่วงนี้จำนวนผู้ติดเชื้อก็อาจยังไม่ลด เพราะเหมือนเป็นภูเขาน้ำแข็ง ก็ต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง ซึ่งจะมีการพิจารณากันต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า ใช้คำว่าล็อกดาวน์หรือไม่ นายสาธิต กล่าวว่า ส่วนตัวมาตรการที่ออกมาเรียกว่า “ล็อกดาวน์” แต่จะมีรายละเอียดต่างๆ ให้ติดตามจาก ศบค.แถลงข่าว โดยกรมควบคุมโรคจะมีมาตรการต่างๆ ออกมา