เขยเล็กซีพีลุยตลาดโลก ทุ่ม1.5พันล. ต่อยอดธุรกิจเอ็นเตอร์เทนฯ

06 ธ.ค. 2562 | 04:40 น.
อัปเดตล่าสุด :07 ธ.ค. 2562 | 12:05 น.

เปิดแนวคิดเขยเล็กซีพี “ชวัลวัฒน์ อริยวรารมย์” ขับเคลื่อนธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์ นำทัพ “ทีแอนด์บี มีเดีย โกลบอล” ลุยตลาดโลก เผยทุ่มงบรวมกว่า 1,500 ล้าน จับมือพาร์ตเนอร์ต่างชาติผลิตหนัง-แอนิเมชัน 6 เรื่องรวด ก่อนต่อยอดคาแรกเตอร์การ์ตูนสู่ธุรกิจอสังหาฯ

 

ดร.ชวัลวัฒน์ อริยวรารมย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ก่อตั้ง บริษัท ทีแอนด์บี มีเดีย โกลบอล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยกับฐานเศรษฐกิจว่า ทุกวันนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าเทคโนโลยีเข้ามาดิสรัปต์ทุกอุตสาหกรรม และในฐานะผู้ผลิตคอนเทนต์และผู้จัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์การพึ่งพาเพียงจอทีวีแพลตฟอร์มเดียวไม่สามารถทำได้อีกต่อไป ปัจจุบันต้องพึ่งพาจอออนไลน์และจออื่นๆ มากขึ้น เนื่องจากผู้ชมยุคใหม่นิยมอยู่กับหน้าจอของสมาร์ทโฟนและใช้ชีวิตนอกบ้านส่วนใหญ่ ดังนั้นแผนธุรกิจของ T&B จากนี้ไปจะให้ความสำคัญกับทุกหน้าจอ พร้อมทั้งตั้งเป้าหมายระยะยาวคือการผลิตคอนเทนต์และเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในตลาดโลก

ปัจจุบันการผลิตคอนเทนต์ 1 ชิ้นต้องศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน รวมทั้งศึกษาตลาดธุรกิจโลกทั้งปัญหาที่เกิดขึ้น และโอกาสการทำธุรกิจ เช่น อุตสาหกรรมภาพยนตร์หรือคอนเทนต์ในประเทศจีนตอนนี้มีการเติบโตอย่างมากโดยวัดได้จากโรงภาพยนตร์ที่เพิ่มขึ้นจากอดีตเมื่อ 30 ปีก่อนที่เคยมีโรงภาพยนตร์จำนวน 1.5-2 หมื่นจอ แต่ปัจจุบันอยู่ที่ 6 หมื่นจอและในอนาคตจะเพิ่มขึ้นเป็น 7 หมื่นจอ ดังนั้นตอนนี้ธุรกิจคอนเทนต์ในประเทศจีนกำลังเป็นที่สนใจต่อนักลงทุนทั่วโลก ผู้ผลิตคอนเทนต์ ค่ายหนัง ฯลฯ ที่กำลังหาวิธีการเข้าไปลงทุนในตลาดดังกล่าว รวมทั้งเป้าหมายของบริษัทคือการผลิตคอนเทนต์เพื่อนำไปสู่ตลาดโลก

เขยเล็กซีพีลุยตลาดโลก ทุ่ม1.5พันล. ต่อยอดธุรกิจเอ็นเตอร์เทนฯ

ดังนั้นวันนี้ T&B ต้องมองให้กว้างและไกลมากขึ้นไม่ได้เป็นเพียงผู้ผลิตคอนเทนต์เท่านั้น แต่ต้องทำหน้าที่เป็น Fund Management Entertainment พร้อมทั้งวางแผนการผลิตคอนเทนต์และลงทุนเอง 100% และลงทุนร่วมโดยรวมราว 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1,500 ล้านบาท โดยแบ่งงบการลงทุน 3 ประเภทหลัก คือ 1.คอนเทนต์ Low Budget ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 2- 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ 2.Medium Budget 5-20 ล้านดอล ลาร์สหรัฐฯ 3.Hight Budget 20 -100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะเดียวกันในด้านรายได้ที่คืนกลับมาบริษัทคาด หวังจะมีกำไรจากการลงทุนราว 15- 20% ซึ่งถ้าคอนเทนต์เรื่องนั้นประสบความสำเร็จอาจจะทำให้มีกำไรเข้ามากว่า 2-3 เท่าของเงินลงทุน

ขณะเดียวกันในด้านโมเดลการหารายได้ของบริษัทจะมุ่งให้กับความสำคัญเป็น 2 กลุ่มการทำงาน คือ 1.กลุ่มธุรกิจภาพยนตร์ บริษัทจะหารายได้หลักจากช่องทางขายตั๋ว (Box Office) ไปสู่แพลตฟอร์มวิดีโอ ดีมานด์ และสตรีมมิ่งเป็นลำดับถัดไป 2.กลุ่มธุรกิจแอนิเมชัน จะมีรายได้จากช่องทางขายตั๋ว (Box Office) และต่อยอดด้วยแพลตฟอร์มอื่นๆ ถัดไป เช่น เกม E- Sport , เมอร์ชันไดส์ และธีมพาร์ก เป็นต้น

บริษัทมองว่าการผลิตคอนเทนต์ดังที่กล่าวมาข้างต้นสามารถต่อยอดโอกาสธุรกิจได้หลายประเภท ยกตัวอย่างเช่น ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยเราอาจนำคาแรกเตอร์การ์ตูนจากแอนิเมชันที่เราผลิตขึ้นต่อยอดสู่สวนสนุก โครงการที่อยู่อาศัยต่างๆ ได้ เนื่องจากปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคล้วนแล้วแต่ต้องการสัมผัสประสบการณ์ หรือ Experience มากขึ้น

 

เขยเล็กซีพีลุยตลาดโลก ทุ่ม1.5พันล. ต่อยอดธุรกิจเอ็นเตอร์เทนฯ

ดร.ชวัลวัฒน์ อริยวรารมย์

 

สำหรับแผนการลงทุนและผลิตคอนเทนต์โดยมีกำหนดฉายในปี 2563 ดังนี้ 1.Project X-Traction กำกับโดย สก็อต วาค นำแสดงโดย เฉินหลง, จอห์น ซีน่า (ภาพยนตร์กลุ่ม Hight Budget ร่วมลงทุนกับผู้ผลิตประเทศจีน) 2.Waiting For Anya จากบทประพันธ์ต้นฉบับโดย ไมเคิล มอร์โปโก (War Horse) นำแสดงโดย โนอาห์ ชแนปส์ (Stranger Things) และแอนเจลิกา ฮุสตัน (Addams Family) โดยร่วมลงทุน 50/50 กับผู้ผลิตประเทศอังกฤษ 3.Four Kids and IT จากบทประพันธ์ของ แจ็กเกอลีน วิลสัน นำแสดงโดยนักแสดง ไมเคิล เคน, รัสเซล แบรนด์, พอลล่า แพตตัน และแมธธิว กู๊ด ร่วมลงทุนกับผู้ผลิตประเทศอังกฤษ

 

 

4.Start it Up ภาพยนตร์วัยรุ่นแนวโรแมนติก คอมมิดี้ นำแสดงโดยนักแสดงวัยรุ่นชื่อดัง เซิ่งอี้หลุน (ปีเตอร์), ชานน สันตินธรกุล (นนกุล),กรภพ จันทร์เจริญ (โจ๊ก โซคูล), สวุพิชญ์ ไตรพรวรกิจ โดย ทีแอนด์บี ร่วมทุนสร้างกับบริษัทบันเทิงยักษ์ใหญ่ในประเทศจีน SMG Pictures & WingsMedia 5.Legend of the Two Heroes กำกับโดย เฮอร์แมน เหยา (IP Man: The Final Fight) ภาพยนตร์แอนิเมชันที่ใช้เทคนิคการถ่ายทำผสมผสานกับศิลปะการป้องกันตัว ที่ร่วมสร้างสรรค์โดย T&B และ Lix Entertainment 6.Tasty Tales of the Food Truckers แอนิเมชันทีวีซีรีส์ที่ตามติดชีวิตของแก๊งสัตว์เพื่อนรัก 3 ตัวกับภารกิจตามหาวัตถุดิบเพื่อปรุงอาหารสุดมหัศจรรย์ ที่ร่วมมือผลิตและสร้างสรรค์โดย T&B และ Shellhut Entertainment เป็นต้น

เขยเล็กซีพีลุยตลาดโลก ทุ่ม1.5พันล. ต่อยอดธุรกิจเอ็นเตอร์เทนฯ

ล่าสุดบริษัทได้นำภาพยนตร์นาจา เข้ามาฉายในประเทศไทย เนื่องจากบริษัทมองเห็นโอกาสจากการทำรายได้ของภาพยนตร์เรื่องนี้ในประเทศจีน ที่สามารถทำรายได้ทั่วโลกกว่า 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 2.5 หมื่นล้านบาท โดยติด Top 10 ของหนังทำเงินทั่วโลกสูงสุดของปีนี้ซึ่งบริษัทคาดว่าภาพยนตร์เรื่องนี้หลังจากเปิดตัวและออกฉายในประเทศไทยจะสามารถทำรายได้มากกว่า 50 ล้านบาทขึ้นไป

 

สำหรับ ดร.ชวัลวัฒน์ อริยวรารมย์ หรือ ดร.แตน โด่งดังจากการเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์การ์ตูนแอนิเมชันไทยเชลล์ดอน” (Shelldon) ที่สร้างชื่อไปทั่วโลก และปัจจุบันยังเป็นลูกเขยของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) หลังสมรสกับนางสาวทิพพาภรณ์ เจียรวนนท์ บุตรสาวคนเล็ก เมื่อปลายปี 2557

เขยเล็กซีพีลุยตลาดโลก ทุ่ม1.5พันล. ต่อยอดธุรกิจเอ็นเตอร์เทนฯ

อย่างไรก็ดีจากข้อมูลสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) ระบุว่า มูลค่าธุรกิจดิจิทัลคอนเทนต์ในปี 2560 ใน 3 อุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ อุตสาหกรรมแอนิเมชัน พบว่ามีมูลค่ารวม 3,799 ล้านบาท เกม 19,281 ล้านบาท และคาแรกเตอร์ 1,960 ล้านบาท ขณะที่ปี 2561 มูลค่าธุรกิจดิจิทัลคอนเทนต์ในกลุ่มอุตสาหกรรมแอนิเมชันเติบโตเป็น 3,877 ล้านบาท เกม 20,927 ล้านบาท และคาแรกเตอร์ 2,201 ล้านบาท จากทิศทางแนวโน้มที่เติบโตขึ้นต่อเนื่องใน 3 อุตสาหกรรมดังกล่าว ส่งผลให้มีผู้เล่นรายใหม่เพิ่มขึ้นจำนวนมาก

 

หน้า 31-32 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,528 วันที่ 5-7 ธันวาคม 2562

เขยเล็กซีพีลุยตลาดโลก ทุ่ม1.5พันล. ต่อยอดธุรกิจเอ็นเตอร์เทนฯ