กรณีบริษัท สหฟาร์ม ผู้ผลิตและส่งออกไก่รายใหญ่ของไทยได้เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ ภายใต้ศาลล้มละลายกลางเมื่อปี 2557 ภายใต้มูลหนี้รวมกว่า 20,788 ล้านบาท โดยเป็นของสหฟาร์มกว่า 10,353 ล้านบาท และบริษัท โกลเด้น ไลน์ บิสซิเนส อีกกว่า 10,435 ล้านบาท โดยมีธนาคาร กรุงไทยเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ ซึ่งศาลได้เห็นชอบแผนฟื้นฟูกิจการเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2558 โดยมีบริษัท อีวาย คอร์ปอเรท แอดไวซอรี่ เซอร์วิสเซส จำกัด เป็นผู้บริหารแผน และได้ดำเนินการตามแผนต่อเนื่องมาเป็นเวลา 5 ปี ซึ่งแผนดังกล่าวจะครบกำหนดในปี 2563 แต่ปรากฎว่าหนี้ไม่ได้ลดไม่มาก
จากรายงานแผนการชำระหนี้ของกลุ่มบริษัท สหฟาร์ม ในไตรมาส 2 ของปีที่ 5 (ระหว่างวันที่ 20 พศจิกายน 2562-19 กุมภาพันธ์ 2563)พบว่า เจ้าหนี้ทั้ง 15 กลุ่ม ซึ่งมีหนี้เงินต้นรวมดอกเบี้ยอยู่ที่ 10,910 ล้านบาทเศษ ปัจจุบันมีภาระหนี้คงค้างอยู่ที่ 8,014 ล้านบาทเศษ ลดลงเพียง 2,896 ล้านบาทหรือ 36.13% โดยเจ้าหนี้ส่วนใหญ่ได้รับการชำระหนี้เพียงส่วนน้อย เมื่อเทียบกับระยะเวลาและค่าใช้จ่ายในการบริหารแผนที่ลูกหนี้จ่าย
วันที่ 3 สิงหาคมนี้ สหฟาร์ม จะยื่นขอความเป็นธรรมต่อศาลล้มละลายเกี่ยวกับบริษัท อีวาย ที่จะยื่นขอขยายแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัท สหฟาร์ม ออกไปอีก 1 ปี พร้อมขอให้ศาลพิจารณาให้ อีวายพ้นจากการเป็นผู้บริหารแผนฯ เนื่องจากลูกหนี้เห็นว่า การดำเนินงานภายใต้แผนฟื้นฟูดังกล่าว ที่ดำเนินงานมาร่วม 5 ปี แต่ไม่มีความคืบหน้าเป็นที่น่าพอใจเท่าที่ควรจะเป็น
“ฐานเศรษฐกิจ” ตรวจสอบข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าพบว่า หลังศาลมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการ บริษัท สหฟาร์ม จำกัด และบริษัท โกลเด้น ไลน์ บิสซิเนส จำกัด เมื่อปี 2558
ปรากฎว่าจนถึงสิ้นปี 2562 บริษัท สหฟาร์ม จำกัด มีหนี้สินลดลงเพียง 649.17 บาท จาก 15,530.38 ล้านบาทในปี 2558 เหลือ 14,881.21 ล้านบาทในปี 2562 ขณะที่สินทรัพย์เพิ่มขึ้นจาก 7,480.29 ล้านบาทในปี 2558 เป็น 8,276.62 ล้านบาทในปี 2562 หรือเพิ่มขึ้น 796.32 ล้านบาท
ขณะที่บริษัท โกลเด้น ไลน์ บิสซิเนส จำกัด มีหนี้สินลดลง 1,744.373 ล้านบาท จาก 15,369.97 ล้านบาท ในปี 2558 มาอยู่ที่ 13,625.60 ล้านบาทในปี 2562 ขณะที่สินทรัพย์เพิ่มขึ้นจาก 7,370.34 ล้านบาทในปี 2558 เป็น 7,627.33 ล้านบาทในปี 2562 หรือเพิ่มขึ้น 256.99 ล้านบาท