ดร.ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เผยว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กรมชลประทานทุกภาคส่วน พร้อมปฏิบัติงานรับมือพายุไต้ฝุ่น "โนอึล" ที่จะขึ้นฝั่งในช่วงวันที่ 18- 19 ก.ย. 2563 ตามข้อสั่งการของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ซึ่งกรมอุตุนิยมวิทยาคาดว่าจะได้รับผลกระทบประมาณ 60 จังหวัด โดยให้กำหนดพื้นที่น้ำหลาก พื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก กำหนดคนและจัดสรรทรัพยากร ให้พร้อมทำงานตลอด 24 ชั่วโมงจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ
ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำให้เก็บน้ำไว้ในอ่างเก็บน้ำ แก้มลิง และในลำน้ำแต่ละพื้นที่ให้มากที่สุด เพื่อลดผลกระทบฤดูแล้งหน้า(ปี 2563/254) เนื่องจากปริมาณน้ำในอ่างขนาดใหญ่ที่มีน้อยกว่าร้อยละ30 ของความจุอ่างฯ มีอยู่เกือบ 20 แห่ง อาทิ เขื่อนภูมิพล เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนบางพระ เป็นต้น ยังได้ให้ศูนย์ปฏิบัติการเครื่องจักรกลที่ปากเกร็ด กระจายเครื่องจักรกล เครื่องมือ เครื่องสูบน้ำ และเครื่องผลักดันน้ำ ประจำไว้ในแต่ละภาคแล้ว เพื่อให้สามารถเข้าช่วยเหลือประชาชนได้ภายในไม่เกิน 24 ชั่วโมงนับแต่เกิดเหตุ โดยกรณีหากมีน้ำท่วมขังในพื้นที่จะต้องเร่งเข้าช่วยเหลือให้เข้าสู่สภาพปกติโดยเร็ว
ด้านนายประพิศ จันทร์มา รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่าได้สั่งการให้ ผู้เกี่ยวข้องเฝ้าระวังทุกโครงการก่อสร้าง ไม่ให้เป็นอุปสรรคในการกีดขวางทางน้ำ ทั้งนี้ เพื่อให้สามารถช่วยระบายน้ำหลากได้ทันที เพื่อบรรเทาภัยให้กับประชาชน “ได้ให้ทุกโครงการก่อสร้างทุกแห่ง แม้จะยังไม่แล้วเสร็จ ให้พิจารณาสั่งการ เฝ้าระวัง โดยเฉพาะการกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ ไม่ให้เกิดอุปสรรคในการระบายน้ำ
กรมชลประทาน ขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์การเคลื่อนตัวของพายุไต้ฝุ่น "โนอึล" จากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด ซึ่งกรมชลประทานพร้อมที่จะเข้าไปช่วยเหลือประชาชนทุกพื้นที่ และสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ที่สายด่วน 1460 ตลอด 24 ชม.
กรมอุตุประกาศเตือน ฉ.8
เมื่อเวลา 16.00 น. วันนี้ (17 กันยายน 2563) พายุระดับ 3 (โซนร้อน) “โนอึล” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 460 กิโลเมตร ทางด้านตะวันออกของเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม หรือที่ละติจูด 15.8 องศาเหนือ ลองจิจูด 112.5 องศาตะวันออกมีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุกำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือ ด้วยความเร็ว 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลาง ระหว่างเมืองเว้และเมืองดานัง และเคลื่อนเข้าสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 18-20 กันยายน 2563 ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น
โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากและมีลมแรงบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ โดยเริ่มมีผลกระทบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน หลังจากนั้นภาคเหนือและภาคอื่นๆ จะมีผลกระทบในระยะต่อไป ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณดังกล่าว ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ และระวังอันตรายจากลมแรง โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่และสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรงไว้ด้วย