ปัจจุบันการบินไทยและบริษัทโรลส์-รอยซ์ ได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันกรณีข้อพิพาทเกี่ยวกับเครื่องยนต์รุ่น Trent 900 และรุ่น Trent 1000 ชำรุดบกพร่อง
ทำให้แผนทำการบินของการบินไทยโดยเครื่องบินโบอิ้ง 787 ดรีมไลเนอร์ ที่ติดตั้งเครื่องยนต์ดังกล่าว ระส่ำหนักต้องหยุดซ่อมบำรุง เมื่อช่วงกลางปี 60-61 ซึ่งเป็นที่มาทำให้การบินไทยเรียกร้องค่าเสียหายต่อศาลที่ประเทศอังกฤษ
แหล่งข่าวระดับสูงจากบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า จากกรณีพิพาทดังกล่าวทางผู้ทำแผนฟื้นฟูเล็งเห็นว่าด้วยคดีที่ยังไม่มีความชัดเจนว่าศาลในประเทศอังกฤษจะเห็นพ้องด้วยกับค่าเสียหายที่การบินไทยเรียกร้องหรือไม่ ทั้งกระบวนการดังกล่าวยังต้องใช้เวลายาวนานและมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีจำนวนมาก
นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงหากว่าท้ายสุดศาลจะตัดสินให้การบินไทยชนะคดี แต่ศาลอาจใช้ดุลพินิจให้โรลส์-รอยซ์ชดใช้ค่าเสียหายต่ำกว่าจำนวนที่การบินไทยเรียกร้อง หรือต่ำกว่า 98 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ซึ่งเป็นจำนวนที่ทางโรลส์-รอยซ์เสนอเพื่อระงับข้อพิพาท)
อีกทั้งถ้ายังไม่ได้ข้อยุติ การบินไทยยังมีภาระต้องหาเงินสดมาชำระค่าซ่อมบำรุงเครื่องยนต์ที่เกิดขึ้นหลังจากวันที่ศาลสั่งให้ฟื้นฟูกิจการ จำนวน 1,054 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 3.31 หมื่นล้านบาท ตลอดระยะเวลาที่การบินไทยยังคงมีเครื่องบินที่ใช้เครื่องยนต์ของโรลส์-รอยซ์อยู่
ทั้งหากการบินไทยไม่สามารถชำระค่าซ่อมบำรุงดังกล่าวได้ การบินไทยจะไม่สามารถประกอบธุรกิจได้ตามปกติ และไม่สามารถหาผู้ให้บริการซ่อมบำรุงรายอื่นมาทดแทนได้
ดังนั้นผู้ทำแผนจึงได้เจรจาให้โรลส์-รอยซ์ ยอมรับยอดหนี้ที่มีต่อการบินไทยและตกลงออกใบลดหนี้ (Credit Note) ให้แก่การบินไทย เพื่อชำระค่าซ่อมบำรุงเครื่องยนต์ที่เกิดขึ้นทั้งก่อนและหลังวันที่ศาลมีคำสั่งฟื้นฟูกิจการ และขอปรับลดอัตราค่าบริการต่างๆ
โดยโรลส์-รอยซ์ตกลงชดใช้ค่าเสียหายให้การบินไทยก่อนวันที่ศาลมีคำสั่งฟื้นฟูกิจการเป็นจำนวน 98 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (3,181ล้านบาท) ในรูปแบบของใบลดหนี้ ซึ่งโรลส์-รอยซ์ตกลงลดจำนวนหนี้ค้างชำระ โดยตกลงว่าหนี้ที่เกิดก่อนวันที่ศาลมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการที่การบินไทยค้างชำระ ประกอบไปด้วย
โดยจะได้รับชำระเป็นรายงวดจำนวน 4 งวด ในช่วงปี 67-69 ส่วนยอดเงินในใบลดหนี้ส่วนที่เหลือ 62.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
การบินไทยมีสิทธินำไปใช้เพื่อชำระค่าบริการซ่อมบำรุงเครื่องยนต์ที่เกิดขึ้นหรือเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 15 ก.ย.63 เป็นต้นไป ซึ่งเป็นหนี้ที่เกิดขึ้นหลังจากวันที่ศาลมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการ