"เราเที่ยวด้วยกันเฟส3"- "ทัวร์เที่ยวไทย"ททท.ชงครม.21ก.ย.นี้บูมเที่ยวไทย

20 ก.ย. 2564 | 05:44 น.
อัปเดตล่าสุด :20 ก.ย. 2564 | 13:59 น.

ททท. ชงครม.21 ก.ย.นี้ ไฟเขียวเดินหน้า "เราเที่ยวด้วยกันเฟส 3" รวมถึง "ทัวร์เที่ยวไทย" เปิดลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย.นี้ เพื่อให้เริ่มเดินทางได้ ตั้งแต่15ต.ค.นี้ เป็นต้นไป เชื่อคนเที่ยวในประเทศมากขึ้น หลังอั้นมานาน ดันเที่ยวในประเทศปีนี้ 90 ล้านคน-ครั้ง

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ททท.เตรียมนำเรื่องเสนอครม.ในวันที่ 21 กันยายน 2564 เพื่อขอให้มีมติเห็นชอบให้ดำเนินโครงการ "เราเที่ยวด้วยกันเฟส 3" และโครงการ "ทัวร์เที่ยวไทย"ได้ หลังจากก่อนหน้านี้ครม.มีมติให้ชะลอโครงการออกไป จากเดิมที่จะเริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอก 3 ที่เกิดขึ้น

 

ยุทธศักดิ์ สุภสร

 

ชูโรง "เราเที่ยวด้วยกันเฟส 3"

 

ทั้งนี้หากครม.เห็นชอบให้เราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 และทัวร์เที่ยวไทย สามารถดำเนินการต่อได้ ก็จะมีการเปิดระบบให้ลงทะเบียนใช้สิทธิ์ในทั้ง 2 โครงการนี้ ได้ในวันที่ 24 กันยายนนี้  เปิดให้จองห้องพักในวันที่8 ตุลาคมนี้ เพื่อให้เริ่มเดินทางท่องเที่ยวได้ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2564 นี้ เป็นต้นไป เนื่องจากต้องจองห้องพักล่วงหน้า 7 วัน และชำระเงินให้เสร็จก่อนจึงจะสามารถเดินหน้าเข้าใช้บริการที่พักได้

 

โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 จะเปิดให้ลงทะเบียนรับสิทธิ์จำนวน 2 ล้านสิทธิ ซึ่งรัฐบาลจะสนับสนุนค่าโรงแรม 40% ให้คูปองอาหาร 600 บาทต่อคืน และสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบิน 40% ในการเดินทางท่องเที่ยว ส่วนโครงการทัวร์เที่ยวไทย  จำนวน 1 ล้านสิทธิ ที่รัฐสนับสนุนวงเงินสูงสุด 5,000 บาท ในการซื้อแพคเกจท่องเที่ยวผ่านบริษัททัวร์ ซึ่งทั้ง 2 โครงการมีกรอบเงินกู้คงเหลือ 10,988 ล้านบาท จากเราเที่ยวด้วยกัน 5,958 ล้านบาท และทัวร์เที่ยวไทยที่ยังไม่ได้เริ่มอีก 5,000 ล้านบาท

 

\"เราเที่ยวด้วยกันเฟส3\"- \"ทัวร์เที่ยวไทย\"ททท.ชงครม.21ก.ย.นี้บูมเที่ยวไทย

จากการประเมินสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ในประเทศขณะนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ชะลอตัวลง และรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ อนุญาตให้เปิดร้านอาหารนั่งทานที่ร้านและเปิดห้างสรรพสินค้าได้ ททท.คาดว่าในเดือนตุลาคมนี้ การเดินทางจะกลับมาเริ่มต้นใหม่ได้ และเกิดการท่องเที่ยวมากขึ้น สะท้อนได้จากการคลายล็อกดาวน์ที่ผ่านมา พบประชาชนเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น โดยเฉพาะในแหล่งท่องเที่ยวใกล้ภูมิลำเนา อาทิ คนกรุงเทพฯเดินทางไปเที่ยวแถวหัวหิน พัทยา ชะอำ จำนวนมาก

 

“เดือนตุลาคมคาดว่า การท่องเที่ยวในประเทศไทยจะกลับมาเริ่มต้นใหม่ได้อีกครั้ง เพราะเป็นไฮซีซั่น ช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2564 รวมถึงมีข้อจำกัดในการเดินทางออกนอกประเทศ บวกกับคนหยุดเดินทางท่องเที่ยวในช่วงที่ผ่านมาน่าจะเกิดความอัดอั้นมากขึ้น ทำให้การท่องเที่ยวน่าจะฟื้นตัวได้ดี ททท.จึงวางแผนกระตุ้นการท่องเที่ยวไว้ทันที ซึ่งทั้งโครงการเราเที่ยวด้วยกันและทัวร์เที่ยวไทยได้เตรียมความพร้อมเรื่องระบบการลงทะเบียนเพื่อจองสิทธิเข้าร่วมโครงการไว้แล้ว”

                                                                 

นอกจากนี้ททท.อยู่ระหว่างการหารือร่วมกับสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ถึงกรอบเวลาการใช้ทั้ง 2 โครงการ ว่าจะสามารถใช้ได้จนถึงช่วงใด เนื่องจากต้องทำเรื่องเบิกจ่ายงบประมาณให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ตอนนี้จึงอยากขอให้เริ่มดำเนินโครงการเร็วที่สุดก่อน เพื่อประเมินว่ามีการใช้สิทธิมากเท่าใดและเหลือเท่าใด

 

การจองใช้สิทธิทั้ง 2 โครงการจะต้องจองล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วัน และชำระเงินก่อนเพื่อป้องกันกรณีการทุจริตที่อาจเกิดขึ้นได้ คาดการณ์จำนวนคนใช้สิทธิจะหนาแน่นมากในช่วงปลายปีนี้ เพราะเป็นช่วงเทศกาลและมีวันหยุดยาวต่อเนื่องข้ามไปเดือนมกราคม 2565 หากสามารถจองเที่ยวได้ถึงสัปดาห์แรกของเดือนมกราคม 2565 ได้เชื่อว่าจะกระตุ้นให้คนใช้สิทธิท่องเที่ยวได้มากขึ้นอีก ทั้งนี้ททท.คาดว่าหลังการคลายล็อกดาวน์และคนเริ่มกลับมาเดินทางท่องเที่ยว น่าจะทำให้การเดินทางท่องเที่ยวในประเทศในปีนี้น่าจะอยู่ที่ 90 ล้านคน-ครั้ง ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา นายยุทธศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย

 

ดันคนไทยเที่ยว90 ล้านคน-ครั้ง

 

อย่างไรก็ในช่วงที่ผ่านมาททท.ได้ปรับลดเป้าหมายการท่องเที่ยวในปีนี้มาแล้วร่วม 3 ครั้ง ครั้งแรกก่อนเกิดโควิดระลอกใหม่ มองว่าการเดินทางเที่ยวในประเทศจะสูงถึง 160 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ราว 8.7 แสนล้านบาท จากการเดินทางเที่ยวในประเทศในช่วงที่ผ่านมาที่คึกคักมาก หลังการเปิดโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 1 และเฟส 2  ที่มีการจองใช้สิทธิ์ 6 ล้านรูมไนท์จนเต็ม สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 2 หมื่นล้านบาท จากการใช้จ่ายของประชาชน 60% และการสนับสนุนค่าที่พักจากรัฐบาล 40% ต่อมาเมื่อเกิดโควิดระลอก 2 ทำให้ในเดือนมี.ค. 64 ททท.ปรับลดมาเหลือ 100-120 ล้านคนครั้ง สร้างรายได้ราว 5.5 แสนล้านบาท

 

จนล่าสุดโควิดระลอกล่าสุดที่รุนแรงและยื้อเยื้อ และมีการล็อกดาวน์มาตั้งแต่เดือนเมษายน 64  ทำให้ททท.ประเมินว่าจะพยายามขับเคลื่อนการท่องเที่ยวภายในประเทศให้อยู่ที่ 90 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 482,468 ล้านบาท ซึ่งในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้มกราคม-มิถุนายน 2564 มีการเดินทางเที่ยวในประเทศแล้ว 24.58 ล้านคน-ครั้ง ลดลง15.25%  สร้างรายได้ 1.28 แสนล้านบาท ลดลง 38.45 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

 

ชำนาญ ศรีสวัสดิ์

ขณะที่นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวว่าการกระตุ้น “ไทยเที่ยวไทย” เอกชนเสนอว่าในช่วงไตรมาส 4 ควรใช้มาตรการวัคซีนครบโดส หรือ ATK Test สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยให้เกิดความเชื่อมั่นในการเดินทางท่องเที่ยว และขอให้รัฐสนับสนุน ATK จำนวน 3 ล้านชิ้น กระตุ้นการท่องเที่ยวปลอดภัย และเดินหน้าโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 และทัวร์เที่ยวไทย ซึ่งรวมกันแล้วจะมีการสนับสนุนการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศรวมกว่า 3 ล้านสิทธิ์ ที่จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1  ตุลาคมนี้เป็นต้นไป

 

หน้า 14-15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 ฉบับที่ 3,715 วันที่ 19 - 22 กันยายน พ.ศ. 2564