ในช่วงวิกฤติ COVID-19 ก็ไม่ต่างจากอีกหลายๆ ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ แต่ด้วยเวลาอันรวดเร็ว THG ก็ปรับตัวเลขผลประกอบการจากแดงกลับมาเป็นเขียวได้สำเร็จ
ความสำเร็จนั้น เกิดจากวิสัยทัศน์และมายด์เซ็ท ที่ตื่นตัว พร้อมเรียนรู้และปรับตัวอย่างรวดเร็ว ของผู้นำองค์กร ที่ส่งต่อมาถึงผู้บริหารและทีมงาน
“นพ.ธนาธิป ศุภประดิษฐ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป (THG) ขุนพลคนสำคัญที่นำพากลุ่มธุรกิจ THG เดินหน้าฟันฝ่าวิกฤติครั้งนี้ เล่าว่า THG มีลักษณะพิเศษ คือ เป็นโปรเฟสชั่นนอล ที่ใส่ใจในเรื่องมาตรฐาน ให้สำคัญกับเรื่องของจรรยาบรรณ (code of conduct) และจริยธรรม
“โควิด เกือบ 2 ปี สอนเราว่า กติกาเดิมๆ อย่างเรื่องการแบ่งแยกงานกันทำในหน้าที่ เมื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน กติกา การแบ่งแยกงานเดิมๆ ไม่เพียงพอ คนต้องทำหน้าที่มากขึ้น หรือบางคนมีหน้าที่ อาจต้องหยุดการกระทำหน้าที่นั้น ทั้งในระดับบุคคล องค์กร ห้างร้าน รัฐบาล”
ด้วยเหตุนี้ THG จึงปรับเปลี่ยนตัวเองอย่างรวดเร็ว เมื่อคนไม่กล้ามาโรงพยาบาลเพราะกลัวโควิด โรงพยาบาลก็ปรับตัวเองไปดูแลผู้ป่วย COVID-19 เสียเลย จนทำให้มีรายได้ฟื้นกลับมา
THG เปิดให้บริการตรวจคัดกรองผู้ป่วย COVID-19 ที่โรงพยาบาลในเครือ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงการตรวจได้สะดวกมากขึ้นและปรับพื้นที่โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง รองรับการรักษาผู้ป่วย COVID-19 ที่มีอาการปานกลางถึงรุนแรง อีกทั้งยังร่วมมือกับผู้ประกอบการโรงแรม จัดบุคลากรทางการแพทย์และวางระบบเพื่อให้บริการ Hospitel สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการน้อย
การปรับเปลี่ยนทั้งหมดจะเดินหน้าไม่ได้ หากบุคลากรที่เป็นฟันเฟืองสำคัญไม่ขับเคลื่อนด้วย “นพ.ธนาธิป” บอกเลยว่า หมอบุญ เป็นมาตรฐานที่มีพลังพร้อมลุย เปรียบเสมือนเป็นต้นแบบที่ทำให้ทีมเดินไปข้างหน้า ด้วยมายด์เซ็ทที่มีความตื่นตัว กระตือรือร้นที่จะทำทุกอย่างให้ดีขึ้นเรื่อยๆ
คีย์เวิร์ด คือ เรื่องมายด์เซ็ท รพ.ที่มีความสำเร็จอยู่เดิม มีฐานลูกค้าดี...การที่จะปรับเป็นหน่วยรบเฉพาะกิจ ค่อนข้างยาก...หากแต่ THG ได้กลุ่มยังค์เจน เป็นหน่วยสนับสนุนที่ดี พร้อมลุย
ต้องยกเครดิตให้คนรุ่นใหม่ ทีมทำงานที่เป็น Gen Y ทั้งหมด เขาพร้อมลุย และสนุกในการทำงาน แม้จะเหนื่อย ต้องอยู่เวรทั้งวันทั้งคืน เพื่อดูแลผู้ป่วย...วิกฤติโควิด Learning Curve มันเยอะ และเร็วมาก มีอะไรใหม่ๆ ตลอด แต่จากมายด์เซ็ทที่ฝังรากในองค์กร ทำให้ทุกคนตื่นตัวพร้อมเรียนรู้ ปรับปรุง อยากรู้อยากเห็นตลอดเวลา เขาจะค้นหาสูตรใหม่ได้ตลอดเวลา และมันต้องเป็นสูตรใหม่ที่ทดลองทำทันที
ความกระตือรือร้นของยังค์เจน เมื่อผนวกเข้ากับผู้นำที่เปิดโอกาส ทุกอย่างก็เดินหน้า “นพ.ธนาธิป” สร้าง Workflow ที่ดี พร้อม Empower ให้ทีมงานที่มีประสบการณ์มากกว่าทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยง ให้น้องๆ ได้แสดงฝีมือ รวมถึงการสนับสนุนปรับค่าตอบแทนที่เหมาะสมกับความทุ่มเท…หลังโควิด คุณหมอมั่นใจว่า จะได้เห็นแชมเปี้ยนพันธุ์ใหม่ในธุรกิจเฮลท์แคร์แน่นอน
ส่วนวิกฤติโควิด -19 “นพ.ธนาธิป” ยอมรับว่า น่าจะยังลากหางยาวไปอีก 3-4 ปี ในขณะที่กลุ่มนักวิจัยวัคซีนต่างประเทศมองว่าน่าจะยาวไปอีก 8 ปี และเวฟ 5 มีแน่ แต่ไม่รู้จะเริ่มเมื่อไร เพราะอย่างไรเสีย ไทยก็ต้องเปิดประเทศ เพื่อทำให้เศรษฐกิจกลับมาขับเคลื่อน
สิ่งสำคัญคือ เมื่อป่วยน้อยสถานพยาบาลรองรับมีพร้อม แต่ถ้าป่วยหนัก เตียง ไอซียูสนาม และโรงพยาบาลต้องเพียงพอ ซึ่งตอนนี้ ไอซียูสนามเพียงพอ... เรื่องเครื่องมือและอาคารไม่น่ากังวล เพราะเราคุ้นแล้ว ตอนนี้ไอซียู เราชำนาญมาก สร้างแป๊บเดียวเสร็จ Learning Curve เท่ากับประสบการณ์เป็นสิบปีที่ผ่านมา
“เราเตรียมพร้อม ถ้าเห็นแนวโน้มว่าจะขึ้น เวฟ 5 มาแน่ ผู้ป่วย 4-6 หมื่นคนต่อวัน เราพร้อมขยาย เพราะถ้าไม่ขยาย จะมีคนเสียชีวิตอีกเยอะ ปัญหาคือ หมอ พยาบาล เอาที่ไหน ตอนนี้เราใช้เทคโนโลยีเข้ามาทดแทน เราลงทุนเอง เฉพาะรพ.สนามและรพ.ปกติ ลงทุนไปแล้วหลายร้อยล้าน”
“นพ.ธนาธิป” เปรยว่า ที่ผ่านมาบริษัทโน้นนี้มาช่วย มาทำเตียงสนาม ห้องความดันลบ เช่น เอสซีจี กองทัพบก กทม. แต่ละคนทำเกินสิ่งที่ กม.บอกให้ทำ ใครถนัดอะไรก็มาช่วยกัน...40 ซีอีโอที่มาช่วย ก็เป็นพลังที่มีศักยภาพมหาศาล ที่นี้ก็อยู่ที่ผู้นำ ที่ต้องเปิดกว้าง ส่งซิกแนลมาว่าจะให้ทำอะไร
นั่นคือแนวคิดและข้อเสนอแนะ ที่ “นพ.ธนาธิป” อยากเห็น ในการเตรียมพร้อมเพื่อแก้ปัญหา ที่เริ่มเห็นเค้าลางว่าจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า ในส่วนของ THG ได้ทำในส่วนที่ทำได้ไปแล้ว ส่วนที่เหลือ คือ ทุกคนต้องช่วยกัน เพื่อให้ประเทศไทยฟันฝ่าวิกฤติครั้งใหญ่นี้ไปให้ได้ เช่นเดียวกับที่ ผู้นำ THG นำพาองค์กรจนประสบความสำเร็จมาแล้ว
หน้า 16-17 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 ฉบับที่ 3,716 วันที่ 23 - 25 กันยายน พ.ศ. 2564