จากการผนึกกำลังความร่วมมือของภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนชาวภูเก็ต ตลอดจนการ บูรณาการระบบรองรับที่ดี โดยเฉพาะระบบความปลอดภัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภูเก็ตชนะ หมอพร้อม หรือ SHA และ SHABA ที่ออกแบบมาใช้กับ ‘แซนด์บอกซ์’ โดยเฉพาะ ทำให้โครงการ“ภูเก็ตแซนด์บอกซ์” ประสบความสำเร็จด้วยดีนับแต่เริ่มโครงการเมื่อ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา
องค์กรภาครัฐและเอกชนในจังหวัดภูเก็ต พร้อมแล้วที่จะนำภูเก็ตมาชูธงประเทศไทย ผงาดเป็นหมุดหมายด้านการท่องเที่ยวของไทยและของโลกอีกครั้ง จัดทาวน์ฮอลล์ล้อมวงพูดคุยเพื่อผลักดันก้าวต่อไปของภูเก็ต กับแคมเปญ “Together Phuket Stepping Forward: ภูเก็ตก้าวไปด้วยกัน” ชูประเด็น “ภูเก็ตน่าเที่ยว ปลอดภัย เข้าง่าย กระจายรายได้ถึงมือทุกคน”รวมทั้งขานรับนโยบายของรัฐบาล ที่จะเปิดประเทศกลุ่มความเสี่ยงต่ำ ให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้โดยไม่ต้องกักตัว ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. นี้
ในกิจกรรมทาวน์ฮอลล์ครั้งสำคัญ นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงก้าวต่อไปจากภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ กับโครงการต่าง ๆ ที่จะช่วยให้เศรษฐกิจของภูเก็ตกลับมารุ่งเรืองอีกครั้งในทุกภาคส่วน
ก้าวต่อจากนี้ คือก้าวสำคัญที่พวกเราต้องทำให้เกิดการกระจายรายได้ให้มากที่สุด ลดช่องว่างทางเศรษฐกิจลงให้มากที่สุด เพื่อการเดินไปด้วยกันอย่างมั่นคง ท่ามกลางสภาวะแห่งความผันผวน ภูเก็ตพร้อมเป็น Sandbox ในทุกมิติการพัฒนา เพื่อสร้างประโยชน์ให้คนภูเก็ตและประเทศไทย
ภูเก็ตในวันพรุ่งนี้ เราจะดันให้เป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก ด้วยการออกแบบอินฟราสตรักเจอร์และพรีเมียมเซอร์วิส ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจที่มีความเข้มแข็งของเสาทั้ง 10 เสา ตั้งแต่เสาหลักคือการท่องเที่ยว ไปจนถึง การศึกษา การเกษตร การเป็นสมาร์ทซิตี้ เป็นสปอร์ททัวริซึม แกสโตโนมีคัลเจอร์ รวมทั้งเตรียมเสนอภูเก็ตเฮลท์แซนด์บอกซ์ ทำให้ภูเก็ตเป็นแซนด์บอกซ์ของทุกๆ รูปแบบ รวมทั้งมีการส่งเสริมเศรษฐกิจระดับฐานรากไปพร้อมกัน เพื่อให้ภูเก็ตกลับมาแข็งแรงสดใสอย่างยั่งยืน
นายปิยพงศ์ ชูวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่าการวางระบบความปลอดภัยในทุกๆ ด้านอย่างรัดกุมและบูรณาการ รวมถึงมาตรการเข้าภูเก็ตทั้งสำหรับผู้เดินทางในประเทศและจากต่างประเทศ “มาตรการเข้าออกภูเก็ตนับตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม ง่ายกว่าเดิมมาก เป็นการส่งสัญญาณความพร้อมของภูเก็ตในการเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นใจ และภูเก็ตพร้อมมากสำหรับการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการเปิดประเทศวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ภูเก็ตก้าวไปด้วยกัน แล้วเราจะกลับมาดีกว่าเดิม “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ให้อะไรที่เป็นประโยชน์กว่าจำนวนเงินและตัวเลขนักท่องเที่ยว เพราะเราได้เรียนรู้ผิดถูก ขนาดรัสเซล โครว์ นักแสดงระดับโลกยังบอกความประทับใจให้ชาวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบสูตรแล้วลองมาเที่ยวภูเก็ต ภายใต้โครงการภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ รวมถึงมั่นใจว่าสถานที่อื่นๆ ในประเทศไทยจะสร้างประสบการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจเช่นกัน เป็นข่าวดีที่คนระดับโลกยืนยันด้วยตัวเอง
ขณะที่นพ.กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต อัพเดทสถานการณ์โควิดในภูเก็ตว่าอัตราการใช้เตียงผู้ป่วยทุกประเภท เหลือเตียงว่าง 46.95% ทีมปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาโควิด-19 เชิงรุก (Phuket CCR Team) ดำเนินการอย่างต่อเนื่องในชุมชน ให้ความสำคัญตรวจกลุ่ม 608 มีการลงทะเบียนเก็บตกวัคซีนในกลุ่มนักเรียน นักศึกษาในเว็บไซต์ www.ภูเก็ต ต้องชนะ.com พิจารณาการปิดLQ,CI, และ Hospitel
“โลกแห่งความจริงคือ เราจะพบผู้ติดเชื้อทั้งจากทางต่างประเทศและในประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ทีมสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตมีความเชื่อมั่นในการควบคุมและจัดการโควิด-19ได้ จากประสบการณ์ที่ผ่านมา พร้อมการสนับสนุนของทุกภาคส่วน เราพร้อมที่จะอยู่กับโควิด-19 อย่างปลอดภัย"
สำหรับสถานการณ์ในภูเก็ต หลังจากแซนด์บ็อกซ์เกิดพีคคนไข้มากหลังจากสายพันธุ์เดลตาระบาด แต่หลังจากการระดมฉีดวัคซีนทำให้การควบคุมโรคได้ผล นอกจากนี้ ยังมีทีมตรวจคัดกรองเชิงรุก เพื่อค้นหาเร็ว รักษาเร็ว และฉีดวัคซีนให้กับคนที่เข้าถึงไม่ได้ หน่วยงานสาธารณสุขพร้อมรับคนที่จะมาเยือน และพร้อมที่จะดูแลทุกคนที่ติดเชื้อโควิดอย่างทันท่วงที
ด้าน นพ.วีระศักดิ์ หล่อทองคำ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระ ภูเก็ต ระบุว่าแนวโน้มผู้ติดเชื้อในปัจจุบันนับเป็นขาลง ซึ่งเป็นผลจากความพยายามของทุกฝ่าย รวมถึงประสิทธิภาพของวัคซีนทั้งที่ได้รับเข็ม 2 และ เข็ม 3 วันนี้ภูเก็ตมีอัตราการได้รับวัคซีนสูงสุดในประเทศ และเทียบได้กับเมืองท่องเที่ยวชั้นนำของโลก
“การฉีดบูสเตอร์เข็ม 3 ช่วยได้มาก จะเห็นได้ว่าหลังจากปรับมาตรการวันที่ 16 ตุลาคมเป็นต้นมา ผู้ติดเชื้อก็ไม่ได้เพิ่มขึ้น สำหรับคนที่เสียชีวิตส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่ม 608 และยังไม่ได้ฉีดวัคซีน หรือฉีดยังไม่ครบโดส ตอนนี้เด็ก 12-17 ปีฉีดวัคซีนแล้ว 50% สำหรับคนไทยหรือคนที่อยู่ในภูเก็ต สามารถมาลงทะเบียนรับวัคซีนได้เลย เรามีวัคซีนเพียงพอสำหรับทุกคนที่ต้องการฉีดวัคซีน”
นพ.สงวน คุณาพร ผู้ทรงคุณวุฒิ จังหวัดภูเก็ต หยิบยกประเด็น “ถ้าไม่เปิดประเทศตอนนี้จะเปิดตอนไหน” โดยเปรียบเทียบภูเก็ตกับเมืองท่องเที่ยวชั้นนำต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นซีย์เชล มัลดีฟส์ สเปน หรือประเทศอังกฤษ โดยยกอังกฤษให้เป็นโมเดลที่น่าสนใจสำหรับภูเก็ต นั่นคือ ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะลดจำนวนผู้ติดเชื้อให้เหลือศูนย์ เรายังจะพบตัวเลขผู้ติดเชื้อเริ่มสูงขึ้นอีกอย่างต่อเนื่อง
นับจากนี้ตามบริบท กิจกรรม และปริมาณผู้คนที่เดินทางเข้ามาภูเก็ต แม้เกือบทุกคนที่เข้ามาต้องฉีดวัคซีนหรือหายจากโควิดมาก่อน แต่ด้วยเหตุที่คนในเกาะส่วนใหญ่มีภูมิคุ้มกันจากวัคซีนเดิมและเข็มกระตุ้นล่าสุด ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ก็จะไม่มีอาการ หรือป่วยเล็กน้อยคล้ายเป็นหวัด ผู้ป่วยหนักที่ต้องเข้าไอซียูหรือเสียชีวิตก็จะไม่มาก ระบบสาธารณสุขของภูเก็ตจะดูแลจัดการได้แน่นอน
นพ. สงวนกล่าวว่า ถ้าไม่เปิดภูเก็ตตอนนี้ก็คงจะช้าเกินไป ชาวภูเก็ตฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มกันมากกว่า 80% แล้ว รวมทั้ง ได้รับการบูสเตอร์เข็ม 3 ด้วยแล้ว ดังนั้นชีวิตต้องเดินต่อไป และเราจะไม่รอสิ่งที่ไม่มีทางเป็นไปได้ คือ การปลอดจากโควิด 100% แต่เราเลือกที่จะอยู่กับโควิดอย่างรู้เท่าทัน และเมื่อในคราวที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะติดโควิด เราจะเผชิญอย่างเข้าใจ เพราะเรามั่นใจว่าผู้ได้วัคซีนครบ โอกาสป่วยรุนแรงและเสียชีวิตจะต่ำมาก
นพ.บัญชา ค้าของ ที่ปรึกษาโรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต ชวนสนทนาเรื่อง Living with Covid-19 เมื่อชาวภูเก็ตเปิดรับนักท่องเที่ยว “ความมั่นคงของชีวิต มิใช่เป็นเฉพาะเรื่องความมั่นใจว่าปลอดโรคปลอดภัย แต่รวมถึงการสร้างความมั่นคงด้านเศรษฐกิจทุกรูปแบบ ในฐานะที่ภูเก็ตเป็นเมืองต้นแบบ เราจะออกแบบปกติใหม่ร่วมกันที่ดีกว่าเดิม
“เราจะเป็นเมืองที่อยู่กับโควิดอย่างตระหนักรู้ มีการบริหารจัดการการอยู่กับโควิดแบบชาญฉลาด โดยเฉพาะการปกป้องและให้กลุ่ม 608 ที่เป็นกลุ่มเปราะบางเข้าถึงระบบสาธารณสุข รวมทั้งต้องเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจไปจนถึงรากหญ้า พัฒนาการศึกษาที่ต้องเดินไปด้วยกัน โดยอาศัยหลักชุมชนเข้มแข็ง พร้อมเปิดประตูให้กับแซนด์บอกซ์ในรูปแบบต่อๆ ไป”
นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กับหัวข้อภูเก็ตจะเป็นอย่างไรต่อไป ที่กล่าวถึงภูเก็ตแซนด์บอกซ์ที่ผ่านมาว่าเป็นการเปิดประตูสู่การท่องเที่ยวครั้งใหม่ แต่กว่าที่เศรษฐกิจของภูเก็ตจะดีเหมือนเก่านั้นคงต้องใช้เวลาและความร่วมมือร่วมใจของทุกฝ่าย จึงต้องสยายปีกให้ประตูสู่การท่องเที่ยวบานนี้เปิดกว้างมากขึ้นทุกช่องทาง ส่งผลให้เศรษฐกิจภูเก็ตกลับมาดี โดยมีจุดมุ่งหมายให้
“ชาวภูเก็ตก้าวไปด้วยกันแบบมีรายได้เพิ่มขึ้นเพียงพอที่จะประคับประคองให้ผ่านพ้นวิกฤต และเพิ่มความพยายามในการสร้างความยั่งยืนให้ธุรกิจท่องเที่ยวสู่คนรุ่นต่อไปอย่างมั่นคง “
เรากำลังจะไปสู่สิ่งที่ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่เราจะไปด้วยกันด้วยความมั่นใจ โดยมีเป้าหมายเป็นนักท่องเที่ยววันละ 1 หมื่นคนต่อวัน เราคาดว่าจะมีผู้ติดเชื้อวันละ 30 คน ซึ่งที่ผ่านมาเป็นผู้ป่วยสีเขียวหรือไม่มีอาการ ซึ่งระบบสาธารณสุขเรายังรองรับได้ แลกกับการจ้างงานเพิ่มขึ้น 30% และจะทำให้รูปแบบชีวิตปกติใหม่ของชาวภูเก็ตกลับมา สิ่งที่จะเกิดขึ้นทางเศรฐกิจ เราจะมีรายได้ 16,320 ล้านบาท และเศรษฐกิจจะหมุนเวียน 35,000 ล้านบาท
ในงานมีผู้บริหารจากหน่วยงานรัฐและเอกชน ผู้ประกอบการรายใหญ่และรายย่อยที่เกี่ยวข้องด้าน ต่าง ๆ ทั้งด้านสาธารณสุข ได้แก่ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลทุกแห่ง ด้านการท่องเที่ยว อาทิ ผู้บริหารของโรงแรมต่างๆ ด้านอาหารและสันทนาการ ด้านการคมนาคม ด้านการศึกษา อีกทั้ง องค์กรปกครองท้องถิ่น ผู้นำชุมชน และสื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟังอย่างคับคั่ง แสดงถึงความร่วมมือร่วมใจของชาวภูเก็ตที่จะนำการท่องเที่ยวกลับมาผงาดบนหมุดหมายของนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลก และนำพาให้เศรษฐกิจกลับมารุ่งเรืองกระจายรายได้สู่ทุกครัวเรือนอย่างยั่งยืน ตามแคมเปญ “Together Phuket Stepping Forward: ภูเก็ตก้าวไปด้วยกัน”