นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ กล่าวว่าทีเส็บจะเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในเดือน พ.ย.นี้ พิจารณาให้ทีเส็บเป็นผู้ดำเนินการประมูลสิทธิ์จัดงาน เมกะอีเวนท์ 3 งานใหญ่ ได้แก่
อย่างไรก็ตามหาก ครม.เห็นชอบให้ทีเส็บดำเนินการประมูลสิทธิ์จัดงาน และได้รับสิทธิ์การจัดงานจาก BIE ซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ทั้ง 3 งาน จะมีการใช้งบบูรณาการของรัฐลงทุนรวม 10,961 ล้านบาท แต่สามารถสร้างเม็ดเงินสะพัดได้มากถึง 100,173 ล้านบาท เป็นไปตามแผนการดึงงานเมกะอีเวนต์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในระยะยาว
สำหรับการเดินทางด้านไมซ์หลังจากรัฐบาลมีนโยบายเปิดประเทศ 1 พ.ย. นี้ ล่าสุดมีนักเดินทางตลาดไมซ์ (MICE: การจัดประชุม ท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล สัมมนา และแสดงสินค้า) กลุ่มองค์กรจากชาติในอาเซียน จำนวน 11 กลุ่ม กลุ่มละ 40-50 คน เตรียมเดินทางมาประชุมและท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัลในช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค.นี้
ส่วนใหญ่เลือกจุดหมายในกรุงเทพฯ ถือเป็นสัญญาณการเริ่มฟื้นตัวของตลาดไมซ์ต่างประเทศ ทีเส็บประเมินว่านักเดินทางไมซ์จากยุโรปน่าจะเป็นตลาดหลักที่กลับมาใช้จ่ายในประเทศไทยในอนาคต
ทั้งนี้ทีเส็บคาดการณ์ว่าปี 2564 อุตสาหกรรมไมซ์ไทยจะมีนักเดินทางไมซ์รวมตลาดในและต่างประเทศ 3.5 ล้านคน จะฟื้นตัวดีขึ้นในปี 2565 มีจำนวนราว 6.13 ล้านคน สร้างรายได้รวม 2.84 หมื่นล้านบาท หรือฟื้นตัว 14% เทียบรายได้รวมไมซ์ไทยปี 2562 ซึ่งปิดที่ 2 แสนล้านบาท ประเมินว่าต้องใช้เวลาอีก 3 ปี หรือ ปี 2567 ไมซ์ไทยจะมีรายได้เท่าปี 2562