ปัจุบันสถานการณ์ของภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยซบเซาลงไปและหยุดชะงักลงตั้งแต่ 2 ปีที่ผ่านมา จากการระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบอย่างสาหัส ทั้งนี้บริษัท เวิลด์ เมดิคอล อัลไลแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ภายใต้ บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) ได้ประสานความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทย
โดยมุ่งเน้นไปที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เพราะประเทศไทยมีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในด้านของการเป็น “เมดิคอล ฮับ” ชั้นแนวหน้าระดับต้นๆของโลก โดยตั้งใจดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและการแพทย์ของโลก
ขณะเดียวกันประเทศไทยได้มีการปลดล็อกกัญชาและกัญชงออกจากยาเสพติด และมีนโยบายส่งเสริมกัญชาทางการแพทย์เพื่อบำบัดรักษาหรือทำการวิจัย รวมไปถึงการใช้งานในเชิงอุตสาหกรรม และมุ่งมั่นให้ทั้งกัญชาและกัญชงกลายเป็นพืชเศรษฐกิจหลักของประเทศไทยในการเดึงนักท่องเที่ยวจากต่างชาติเข้ามาในประเทศและส่งเสริมผลิตภัณฑ์Green medicineเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย
เพื่อทำให้เศรษฐกิจของประเทศไทยเติบโตอย่างสวยงาม บ.เวิลด์เมดิคัล อัลไลแอนซ์ ประเทศไทย จำกัด และบริษัท CISW ที่ต่างเห็นถึงนโยบายที่ตรงกันในการผลักดันพืช กัญชาเพื่อการแพทย์ จึงผนึกกำลังประสานความร่วมมือกับอีก 4 องค์การหลัก คือ กระทรวงสาธารณสุข(กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ) ,สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ,TCEB และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมจัดงาน The Global Medical Cannabis and Herbs Forum ครั้งที่ 1
เพื่อผลักดันให้ กัญชา กลายเป็นพืชเศรษฐกิจยั่งยืนของไทยทั้งในด้าน การแพทย์ การรักษา เพิ่มคุณค่าด้วย นวัตกรรม เทคโนโลยีใหม่ๆ ยกระดับให้ประเทศไทยเป็น Hub of herb and knowledge สร้าง network ที่เกี่ยวข้องกับ Medical cannabis and herbs ให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกอยากจะมาประเทศไทย เพื่อรับการ Medical CBD and herbs โดกัญชาเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลก
นางศิริญา เทพเจริญ ประธานบริหาร บริษัท เวิลด์ เมดิคอล อัลไลแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เวิลด์ เมดิคอลทำงานร่วมงานกับภาคเอกชนและภาครัฐ เพื่อเป็นการนำร่องสร้างเศรษฐกิจรับเปิดประเทศ เราเชื่อว่าการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์หรือสุขภาพ จะเป็นเครื่องมือที่จะทำให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว การทำงานหลังจากนี้เราไม่ใช่การตั้งรับ
นอกจากการรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามารักษาในประเทศไทย แต่เราจะทำงานร่วมกับทีมงานทั้งภาครัฐ มหาวิทยาลัยหรือนักวิจัยเพื่อทำตลาดเชิงรุก ส่งออกผลิตภัณฑ์Green medicine ไปทั่วโลกและเราก็ได้พันธมิตรแรกคือประเทศญี่ปุ่นที่มาเป็นพันธมิตร และเป้าหมายต่อไปจะมุ่งเจาะตลาดเยอรมันหรือแม้แต่อเมริกาในอนาคตอันใกล้
ดร.โทชิฮิโระ อิโต้ ประธานสมาคม JCA (Japan cannabinoid association) เปิดเผยว่าJCA มีหน้าที่ส่งเสริม ดูแล และสร้างตลาดกัญชาที่ปลอดภัยถูกต้องตามกฎหมาย เนื่องจากกฎหมายญี่ปุ่นมีความเข้มงวด กฎหมายปราบปรามกัญชาจะอยู่เหนือกว่ากฎหมายอาหารและยา ซึ่งการใช้กัญชง กัญชาหรือCBD จะต้องถูกต้องตามกฎหมายคือ THC ต้องเป็น0 และ CBDต้องสกัดจากลำต้นหรือเมล็ดเท่านั้น
คลาดกัญชาของประเทศญี่ปุ่นเริ่มต้นเมื่อประมาณเดือนเมษาปี2563 ที่ผ่านมา และตอนนี้มีการขยายตัวของตลาดโดยมูลค่ากัญชาในญี่ปุ่นปัจุบันอยู่ที่ 4000 ล้านเยนหรือเท่ากับ 1.3พันล้านบาท และคาดว่าในอนาคตญี่ปุ่นจะกลายจะเป็นตลาดใหญ่อันดับ 5 ของโลก นอกจากนี้ญี่ปุ่นกำลังมองหาแหล่งผลิตในต่าง เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นไม่สามารถผลิตปลูก สกัดกัญชาได้ หลังจากประเทศไทยมีการปลดล็อคกัญชง กัญชา JCAมีความตั้งใจในการร่วมวิจัยพัฒนาและแนะนำผู้ประกอบการไทยเกี่ยวกับกฎหมายกัญชาของญี่ปุ่น