นางศิริญา เทพเจริญ กรรมการบริหาร บริษัท เวิล์ด เมดิคอล อัลไลแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้บริหารโรงพยาบาลพานาซี เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ภาพรวมการรักษาหรือรับบริการทางการแพทย์ในปีนี้คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นกว่าปีก่อน โดยเฉพาะในมุมของคนไข้ต่างชาติ เพราะแต่ละประเทศมีการฉีดวัคซีนหรือควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ จนสามารถเดินทางได้เกือบเป็นปกติ
โรงพยาบาลพานาซี จึงเตรียมความพร้อมในการรองรับคนไข้ทั้งในประเทศและจากต่างประเทศที่คาดว่าจะเดินทางเข้ามารับการรักษาโรคโดยเฉพาะคนไข้จากบังกลาเทศ จีน กัมพูชา พม่า บังกลาเทศ ดูไบ ฯลฯ โดยล่าสุดโรงพยาบาลได้เปิดตัว ศูนย์มะเร็งโดยใช้ Green medicine หรือสารจากธรรมชาติ 360 องศาไม่ว่าจะเป็นสเต็มเซลล์, สมุนไพร อาทิ ขมิ้นชัน ฟ้าทลายโจร กระชาย หรือ ขิง, IV vitamin ฯลฯ นำเข้าจากเยอรมนีบวกด้วยกัญชาของประเทศไทย ในการรักษา
นอกจากนี้ “พานาซี” ยังจับมือกับโรงพยาบาลในประเทศเยอรมนี ที่เชี่ยวชาญการรักษาผู้ป่วยมะเร็งด้วยสารจากธรรมชาติ เพื่อบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างทีมแพทย์เยอรมนีกับทีมแพทย์ไทยในการวิจัยกัญชารักษามะเร็ง เพื่อรองรับผู้ป่วยกลุ่มมะเร็งซึ่งเป็นกลุ่มที่ต้องการการรักษาด้านธรรมชาติบำบัดและเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรง และทำให้ “พานาซี” แตกต่างจากที่อื่น
โดยกัญชาที่ใช้รักษาโรคจะอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น ซึ่งข้อดีของประเทศไทย คือ เป็นประเทศเดียวในเอเชียที่ใช้กัญชาในการรักษาโรค ถือเป็นจุดเด่นที่จะต่อยอดภาพรวมของประเทศ ซึ่ง “พานาซี” ได้นำมาคอมบายกับสมุนไพร ตามนโยบายการใช้ Green Medicine หรือการใช้สารธรรมชาติแม้กระทั่งสเต็มเซลล์ของตัวเองก็ตามเพราะสารธรรมชาติแต่ละตัวก็ออกฤทธิ์ต่างกัน
สำหรับ Green Medicine ที่ใช้ในการรักษาเป็นการนำเข้าจากเยอรมนีทั้งหมด และในระหว่างการศึกษาวิจัยเพื่อผลิตเองในประเทศไทยซึ่งจะอยู่ภายใต้การกำกับของ เวิล์ด เมดิคอล อัลไลแอนซ์ (WMA) บริษัทแม่ของโรงพยาบาลพานาซี ซึ่งดูแลในส่วนของ เครื่องมือแพทย์ ผลิตยา และแพลตฟอร์ม
โดยเบื้องต้นจะโฟกัสเรื่องเครื่องมือแพทย์ไม่ว่าจะเป็นการนำเข้า ATK และผลิตยากลุ่มยานอนหลับยาคลายเครียดที่กำลังทำวิจัยเพื่อขึ้นทะเบียนและยาตัวอื่นๆที่นำเข้า นอกจากนี้ยังมีแผนอัพเกรดแพลตฟอร์ม MORHELLO ให้สมบูรณ์ 100% ภายในเดือนมีนาคมนี้ ซึ่งปัจจุบันเปิดให้บริการในส่วนของการซื้อขาย และกระจาย supply product ต่างๆให้ร้านยาหรือคลินิกพันธมิตรเพื่อช่วยลดต้นทุน เพิ่มรายได้ ลดค่าใช้จ่าย รวมทั้งส่งออกกลุ่มยาตำรับซิกเนเจอร์ของไทย ซึ่งเป็นนวัตกรรมสมุนไพร บวกด้วยกัญชา กัญชงไปยังอเมริกา ยุโรป จีน ญี่ปุ่น ในช่วงไตรมาส 2
อย่างไรก็ตามการใช้กัญชา ยังมีความเสี่ยงเพราะมีสาร THC จึงจำเป็นต้องจ่ายโดยแพทย์ที่มีความรู้ เพราะปัจจุบันคนยังมีความรู้น้อยเกี่ยวกับความแตกต่างของสาร CBD และ THC แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นกัญชา กัญชง ยังคงเป็นพืชสวรรค์ ที่ช่วยลดอาการปวด ปวดไมเกรน ปวดหัว ซึ่งปกติคนไข้ต้องกินยาที่เป็นเคมี แต่กัญชา กัญชง นอกจากรักษาอาการปวดแล้วช่วยในฟังก์ชันของสมองด้วย เพราะฉะนั้นโจทย์หลักของปีนี้คือการให้ความรู้คนมากขึ้น
ส่วนในเรื่องของ supply กัญชาที่พานาซีจะนำมาใช้การผลิตยา ปัจจุบันถือว่ามีเพียงพอ จากการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนหรือมหาวิทยาลัยต่างๆ ปลูกเพื่อซัพพลายในสายการผลิต นอกจากนี้ยังมีแผนเปิดตัวบัตรอีลีท ซึ่งเป็นความร่วมมือกับพันธมิตรในเดือนมีนาคมนี้ในงาน Health Expo ด้วย
“โรงพยาบาลพานาซีมีความเชี่ยวชาญในการรักษาผู้สูงอายุ และเน้นการรักษาที่ต้นเหตุโดยธรรมชาติอยู่แล้ว ซึ่งพานาซี ได้เปิดศูนย์หลอดเลือดหัวใจรักษา ทั้งคนที่เป็น แต่ไม่ได้ผ่าตัด หรือกลุ่มความดันและตอนนี้กำลังทำวิจัยศูนย์หลอดเลือดหัวใจโดยไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งทั้ง 2 ศูนย์นี้จะรองรับคนไข้สูงอายุที่มีปัญหาโดยเฉพาะ”
นอกจากนี้ในประเทศไทยมีผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการนอนเยอะกว่า 19 ล้านคน ซึ่งมองว่าเป็นโรคทรมาน และส่งผลให้ทำงานไม่เต็มศักยภาพ โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีภาวะอัลไซเมอร์ ขณะที่นักวิจัยในอิสราเอลค้นพบว่า เมื่ออายุมากขึ้น สาร endocannabinoids จากสมองจะน้อยลง ทำให้นอนน้อย ความจำหาย แต่สิ่งที่จะเข้าไปเติม endocannabinoids ที่น้อยลงได้คือ CBD เพราะฉะนั้นคนไทยจะไม่มีปัญหาการนอน พอปลดล็อกตรงนี้ได้เชื่อว่า คนไทยจะอายุยืนขึ้นและคนป่วยก็จะน้อยลงอย่างเห็นได้ชัดภายใน 2-3 ปีนี้
นางศิริญา กล่าวอีกว่า ตอนนี้โรงพยาบาลกำลังทำงานวิจัยและจัดเป็นแคมเปญรวมพล คนนอนไม่หลับ โดยจับมือกับแบรนด์นาฬิกา สมาร์ทวอชต์ เก็บสถิติการรักษาที่ต้นเหตุโดยการใช้ CBD คอมบายกับพืชสมุนไพรเป็นยามารักษาในช่วง 2 สัปดาห์แรก และ คนไข้จะสามารถหลับได้เองในสัปดาห์ที่ 3- 4
“สำหรับคนไข้ในประเทศไทยปีนี้เราจะโฟกัสโรคนอนไม่หลับผ่านแคมเปญรวมพลคนนอนไม่หลับ ส่วนคนไข้ต่างประเทศจะโฟกัสในเรื่องของโรคเบาหวาน ความดัน หลอดเลือดหัวใจและโรคมะเร็ง”
หน้า 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 ฉบับที่ 3,758 วันที่ 17 - 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565