สิ่งที่ธุรกิจครอบครัว จะเปลี่ยนไปตลอดกาล

07 พ.ค. 2565 | 22:51 น.

Designing Your Family Business รศ.ดร.เอกชัย อภิศักดิ์กุล คณบดีคณะวิทยพัฒน์ และผู้อำนวยการศูนย์ธุรกิจครอบครัว มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย [email protected]

หลังจากวิกฤติโควิด-19  หลายปีที่ผ่านมาธุรกิจครอบครัวต่างได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ซึ่งนำไปสู่ช่วงเวลาที่ยากลำบากอย่างมาก อีกทั้งยังต้องรับมือความสัมพันธ์ที่อ่อนไหวของคนในครอบครัวด้วย แม้ครอบครัวจะสามารถร่วมมือกันได้ในเวลาที่ยากลำบาก

 

แต่บางกรณีอาจเป็นการต่อสู้เพื่อขับไล่ผู้บริหารที่มีสายเลือดเดียวกันที่ก่อให้เกิดปัญหาได้ ในทางกลับกันธุรกิจครอบครัวก็มีความพร้อมที่จะทำให้อยู่รอดได้ดีกว่าธุรกิจส่วนใหญ่ เนื่องจากมักให้ความสำคัญกับเป้าหมายระยะยาวเพราะเจ้าของกิจการมักตั้งใจที่จะถ่ายโอนธุรกิจให้กับทายาทรุ่นต่อไป

              

อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ก็อาจเป็นปัญหาได้เช่นกัน หากทายาทไม่แข็งแกร่งเท่ากับผู้บริหารคนสำคัญที่มีอำนาจในปัจจุบัน เป็นต้น ทั้งนี้เมื่อพิจารณาความท้าทายของธุรกิจครอบครัวที่เกิดจากการระบาดของโรคโควิด-19 และผลกระทบทางสังคมและเศรษฐกิจ พบว่ามีความท้าทาย 5 ประการที่มีความเฉพาะสำหรับธุรกิจครอบครัวทั่วโลก ซึ่งหากสามารถจัดการได้ดีจะสามารถเปลี่ยนเป็นโอกาสให้กับธุรกิจได้ ดังแนวทางต่อไปนี้

              

การสืบทอดกิจการ ธุรกิจครอบครัวมักจะคิดว่าการสืบทอดกิจการเป็นกระบวนการที่ยาวนานซึ่งต้องมีการวางแผนและดำเนินการอย่างเป็นระบบ แต่ในช่วงระหว่างการระบาดของโรคโควิด-19 กลับพบว่าการเปลี่ยนผ่านเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและไม่คาดฝัน โดยเจ้าของกิจการอย่างน้อย 25% มีอาการป่วยกะทันหันหรือจะออกจากธุรกิจเร็วกว่าที่คาดไว้เนื่องจากวิกฤตครั้งนี้

 

ดังที่เจ้าของธุรกิจครอบครัวรายหนึ่งบอกว่า: ความคิดเรื่องการเสียชีวิตมีมากขึ้นหลังจากเห็นคนป่วยจำนวนมากจากโรคระบาดนี้ ทำให้มองเห็นว่าการสืบทอดกิจการเป็นเรื่องใกล้ตัวกว่าที่เคย และคิดว่าเป็นสิ่งที่อาจเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และในลักษณะที่ไม่คาดฝันได้

ธุรกิจครอบครัว

ดังนั้นเจ้าของกิจการและผู้บริหารต้องพร้อมที่จะจัดการสืบทอดกิจการ หรือในบางกรณีด้วยสภาพแวดล้อมปัจจุบันอาจบังคับให้ต้องพิจารณาทางเลือกอื่นแทนการสืบทอดตำแหน่งภายในครอบครัว เช่น หามืออาชีพจากภายนอก หรือการขายกิจการ หรือแม้แต่การปิดกิจการ เป็นต้น

              

การรักษาความรู้สึกของความเป็นครอบครัว จากการวิจัยพบว่าการมีสมาชิกในครอบครัวทำงานในธุรกิจทำให้เกิดความสัมพันธ์ส่วนตัวที่ยาวนานกับพนักงาน ลูกค้า และซัพพลายเออร์ แต่ความสัมพันธ์เหล่านี้ได้หยุดชะงักลงจากการเว้นระยะห่างทางสังคมและการทำงานจากที่บ้านในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 ดังนั้นธุรกิจจึงต้องออกแบบกระบวนการทำงานใหม่ เพื่อรักษาความได้เปรียบทางสังคมที่โดดเด่นนี้ในสภาพแวดล้อมดิจิทัลที่อาจยังอยู่ต่อไป

              

ประเพณีดั้งเดิมและประวัติศาสตร์ กล่าวกันว่าธุรกิจครอบครัวมักมีการคาดการณ์ไปในอนาคต โดยมุ่งเน้นที่การเติบโตจากรุ่นสู่รุ่น แต่มุมมองเชิงลบและความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นจากการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 ทำให้หลายคนรู้สึกคิดถึง “ยุคทองในอดีต” แทน

 

ธุรกิจหลายแห่งพยายามใช้ประโยชน์จากประวัติครอบครัวและประเพณีดั้งเดิมของตน เช่น เน้นค่านิยมที่มีมายาวนานและความสำเร็จในอดีตให้แก่ลูกค้า และยังมุ่งเน้นไปที่การคงอยู่ได้ของธุรกิจมากกว่ามุ่งการเติบโตของธุรกิจ

              

อย่างไรก็ตามธุรกิจครอบครัวจำเป็นต้องใช้ค่านิยมดั้งเดิมในการปรับทิศทางตัวเองในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอน ขณะเดียวกันก็ต้องมองย้อนกลับไปดูประวัติศาสตร์เพื่อเรียนรู้ว่าสมาชิกในครอบครัวรับมือกับวิกฤตในอดีตอย่างไร ซึ่งเจ้าของกิจการต้องมุ่งเน้นหาวิธีที่ดีที่สุดเพื่อความได้เปรียบในการแข่งขันในอนาคตต่อไป

              

การแลกเปลี่ยนที่ยากลำบาก ธุรกิจครอบครัวมักได้รับแรงจูงใจจากสิ่งที่มีคุณค่าอื่นมากกว่าความมั่งคั่งทางการเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลกระทบต่อสมาชิกในครอบครัวมักถูกนำมาพิจารณาด้วย หากธุรกิจประสบปัญหาฝ่ายบริหารมักไม่เต็มใจที่จะไล่สมาชิกในครอบครัวออก และฝ่ายบริหารอาจไม่ยอมนำบุคคลภายนอกเข้ามาบริหารธุรกิจเพราะเกรงว่าจะเป็นการทำลายแผนการสืบทอดตำแหน่งภายในครอบครัว

 

ซึ่งการตัดสินใจในเรื่องดังกล่าวอาจเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ ที่มักจะบังคับให้ต้องเลือกระหว่างความสามัคคีในครอบครัวกับอนาคตของธุรกิจ เป็นความจำเป็นที่ต้องแลกเปลี่ยนแม้จะยากลำบากเพียงใด และเหตุการณ์เหล่านี้เกิดมากขึ้นภายหลังการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19

              

รักษาความมั่งคั่ง เจ้าของธุรกิจครอบครัวมักถูกมองว่ามีแนวโน้มที่จะลงทุนโดยคาดหวังผลตอบแทนอย่างรวดเร็วเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย ดังนั้นที่ปรึกษาภายนอกจึงมักมุ่งเน้นไปที่การบริหารหรือการกำกับดูแลและสิ่งที่ไม่เกี่ยวกับความเป็นไปได้ทางการเงิน แต่การระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 กำลังเปลี่ยนแปลงแนวทางเดิมนี้

 

โดยธุรกิจครอบครัวต่างหันมาให้ความสำคัญกับการรักษาทรัพย์สินและความมั่งคั่งของตนเพื่อเอาตัวรอดจากวิกฤตนี้ ด้วยเหตุนี้ family office ที่มักจัดตั้งขึ้นโดยครอบครัวเพื่อจัดการทรัพย์สินจึงมีความสำคัญและจะเป็นที่นิยมมากขึ้น

              

ดังนั้นแทนที่จะมุ่งเน้นไปที่ความกังวลในในเรื่องระยะสั้นเฉพาะหน้า ธุรกิจครอบครัวจำเป็นต้องจัดการกับความท้าทายทั้ง 5 ประการข้างต้นนี้เพื่อความอยู่รอดและเติบโตในระยะยาว ซึ่งในบางครั้งอาจต้องละทิ้งมุมมองที่เก่าๆในการดำเนินธุรกิจ และหาวิธีการดำเนินการใหม่เพื่อพัฒนาธุรกิจให้ก้าวทันโลกและสามารถอยู่ต่อไปได้

              

ที่มา: Adetunji, J. May 10, 2021. Five things that family businesses must do to survive hard times. Availabble: https://theconversation.com/five-things-that-family-businesses-must-do-to-survive-hard-times-152285

ข้อมูลเพิ่มเติม : www.famz.co.th

 

หน้า 17 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,780 วันที่ 5 - 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2565