เซ็ปเป้ จ่อออกสินค้ากัญชง Q3 ดึง GUNKUL ซัพพลาย "กัญชง" ป้อนไลน์ผลิต

12 ก.ค. 2565 | 11:04 น.
อัปเดตล่าสุด :12 ก.ค. 2565 | 18:32 น.

เซ็ปเป้ เตรียมทุบตลากกัญชง จ่อปล่อยผลิตภัณฑ์ผสมสารสกัดกัญชงออกสู่ตลาด ไตรมาส3 พร้อมเป็นซัพพลายเออร์รุกตลาด B2B ขายสารสกัดกัญชงป้อนโรงงานอุตสาหกรรม ธุรกิจการผลิต ดึง GUNKUL เป็นพันธมิตรซัพพลายสารสกัดกัญชงป้อนสายการผลิต เซ็ปเป้

‘บมจ. เซ็ปเป้’ หรือ SAPPE ลงนาม MOU เพื่อผนึกความร่วมมือ GUNKUL ต่อยอดไลน์ผลิตภัณฑ์กัญชงทั้งในรูปผลิตภัณฑ์ภายใต้ SAPPE และสารสกัดกัญชงป้อนธุรกิจ B2B พร้อมศึกษาตลาด และเตรียมส่งออกวัตถุดิบและสารสกัดจากกัญชากัญชง 

SAPPE ผนึกความร่วมมือ GUNKUL ลงนาม MOU ซื้อขายกัญชง

นางสาวปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ร่วมกับ บริษัท จี.เค.เฮมพ์ กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) ในการจะซื้อจะขายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับพืชกัญชากัญชง เพื่อขยายตลาดสินค้ากัญชากัญชงของไทย โดยจะเริ่มทำตลาดในประเทศ แล้วขยายเข้าสู่ตลาดต่างประเทศ 

โดย SAPPE มีจุดแข็งในแง่ของการทำการตลาดและการขาย มีพันธมิตรและเครือข่ายที่แข็งแกร่ง คาดว่าจะสามารถนำวัตถุดิบและสารสกัดจากกัญชากัญชง ที่ถูกเพาะปลูกด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงจาก GUNKUL มาจำหน่ายต่อได้อย่างกว้างขวางมากขึ้น

 

คาดว่าภายในไตมาส 3 บริษัทจะมีผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดกัญชง ออกสู่ตลาดในเซกเมนต์ของ functional drink โดยเบื้องต้นจะทำการตลาดในประเทศก่อน เนื่องจากมีความชัดเจนในเรื่องข้อกฎหมายต่างๆ ขณะเดียวกันจะศึกษาต่อยอดกัญชง ไปใช้ในผลิตภัณฑ์อื่นๆทั้ง อุปโภคบริโภค และในอนาคตวางแผนส่งออกไปยังต่างประเทศ ซึ่งปัจุบันอยู่ในขั้นตอนการศึกษาตลาดและข้อกฏหมายของประเทศต่างๆ 

 

นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนรุกตลาด B2B โดยจะซัพพลายสารสกัดกัญชงจาก GUNKUL ไปยังโรงงานอุตสาหกรรม ร้านอาหาร และธุรกิจการผลิตอื่นๆ ภายใต้ บิสิเนส ยูนิต ใหม่ INDUSTRIAL SUPPLY

 

“ความร่วมมือครั้งนี้ระหว่าง SAPPE และ GUNKUL เป็นการเสริมความแข็งแกร่งและเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจ ด้วยจุดแข็งของเราคือการขายการตลาดและเครือข่ายพันธมิตร คู่ค้า-ลูกค้าที่ครอบคลุมในหลายประเทศ ทำให้ SAPPE มีศักยภาพและมองเห็นโอกาส

 

โดยจะเริ่มตลาดในประเทศก่อนแล้วต่อยอดไปสู่ต่างประเทศต่อไป ซึ่งเราจะช่วยหาลูกค้าเพื่อกระจายวัตถุดิบและสารสกัดจากกัญชากัญชงคุณภาพที่ถูกเพาะปลูกด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง สร้างโอกาสและมาตรฐานที่ดีในอุตสาหกรรมกัญชากัญชงต่อไป”

 

นางสาวโศภชา ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL กล่าวว่า  ประเทศไทยนับเป็นประเทศแรกในอาเซียน ที่สามารถปลดล็อกกัญชากัญชงได้สำเร็จ และสามารถผลักดันเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีมูลค่าสูง ทำให้ภาคธุรกิจทั้งรายใหญ่และรายเล็กต่างพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์ผู้บริโภค ซึ่งบริษัทฯ เชื่อมั่นว่าจากรูปแบบการปลูกของบริษัทฯ ที่เป็นระบบโรงเรือนที่ได้มาตรฐาน เป็นพื้นที่เพาะปลูกของบริษัทฯ เอง ส่วนการปลูกก็เป็นแบบ Hydroponics ใช้น้ำ RO (Reverse Osmosis) การปลูกในวัสดุปลูกดินเผา การเพาะในโรงเรือนแบบกึ่งปิด ทำให้มั่นใจได้ว่ากัญชากัญชงที่ GUNKUL เพาะปลูกมีคุณภาพและมาตรฐานสูงมากพอสำหรับนำไปทำสารสกัด รวมถึงเพื่อใช้ทางการแพทย์  จึงทำให้ได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มลูกค้า 

 

“การร่วมมือระหว่าง SAPPE และ GUNKUL ในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวที่สำคัญในการสร้างโอกาสทางธุรกิจร่วมกัน เพื่อช่วยตอบความต้องการใหม่ๆ ของผู้บริโภค โดยเฉพาะด้านการดูแลสุขภาพ ผ่านการคิดค้นพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ที่นำคุณประโยชน์ของกัญชากัญชงมาใช้อย่างเต็มที่ ซึ่งจะช่วยขยายธุรกิจไปสู่ตลาดที่มีโอกาสเติบโตในอนาคตได้เป็นอย่างดี  และตอบโจทย์ความต้องการอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ โดยสารสกัดจากกัญชากัญชงไปเป็นวัตถุดิบและสารตั้งต้น เพื่อใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์  ถือเป็นการสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการในห่วงโซ่การผลิต ยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันให้กับอุตสาหกรรมอาหารไทยบนเวทีโลก นับเป็นโอกาสของ GUNKUL ในการเพิ่มช่องทางในการขยายธุรกิจและสร้างฐานรายได้เพิ่ม โดยบริษัทฯ จะเน้นสร้างการเติบโตไปพร้อมๆ กับกลุ่มพันธมิตรที่ได้ร่วมกันต่อยอดธุรกิจกัญชากัญชง” นางสาวโศภชากล่าว 

ปัจจุบันบริษัทฯ มีโรงสกัดสาร CBD มีจำนวน 1 แห่ง ตั้งอยู่ที่คลอง 11 จังหวัดปทุมธานี เพื่อผลิตสินค้าในหมวดเครื่องสำอางค์ เครื่องดื่ม และยาสมุนไพร  ซึ่งมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 200 กิโลกรัมต่อวัน(ดอกแห้ง)  ส่วนพื้นที่เพาะปลูกกัญชงมีจำนวน 15 ไร่ บนพื้นที่ประมาณ 50 ไร่ และมีโรงเรือนเพาะปลูกจำนวน 13 โรงเรือน ซึ่งมีแผนขยายเป็น 35 โรงเรือน บนพื้นที่ 60 ไร่ ภายในสิ้นปี 2565