หลังจากที่ “มาม่า” ประกาศปรับขึ้นราคาขายส่งไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เพราะแบกรับภาระต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นไม่ไหว โดยเฉพาะจากราคาน้ำมัน ค่าขนส่ง โดยมาม่าปรับขึ้นราคาขายส่งเฉลี่ย 0.083 สตางค์ต่อซอง ส่วนแบบลัง (6 กล่องๆ ละ 30 ซอง) ปรับราคาส่งขึ้นเฉลี่ย 3 บาท/กล่อง ทำให้ร้านค้ามีกำไรลดลงเหลือเพียงซองละ 75 สตางค์จากเดิมที่ได้กำไรซองละ 1 บาท
ล่าสุด ในวันที่ 1 ส.ค.นี้ ก็จะมีสินค้าอีกหลายกลุ่มที่ทยอยปรับราคาขึ้น รวมไปถึง “มาม่า” จะปรับราคาขึ้นเป็นซองละ 7 บาท จากเดิมซองละ 6 บาทด้วย
ร้านค้าส่งรายใหญ่ แห่งหนึ่งในย่านรามอินทรา กล่าวกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ มาม่า แจ้งราคาขายส่งใหม่เป็น 155 บาทต่อกล่อง (30 ซอง) จากเดิมราคาขายส่ง 145 บาทต่อกล่อง (30 ซอง) ส่วนราคาขายปลีกใหม่ปรับขึ้นเป็นซองละ 7 บาท จากเดิมราคาซองละ 6 บาท
ร้านค้าจากเดิมที่มีสั่งซื้อกล่องละ 145 บาท ต้นทุนซองละ 4.83 บาทขายราคาซองละ 6 บาท จะได้กำไรซองละ 1.17 บาท ปรับราคาใหม่เป็นกล่องละ 155 บาท ต้นทุนก็จะปรับเพิ่มขึ้นเป็นซองละ 5.16 บาท แต่เมื่อขายในราคาซองละ 7 บาท จะได้กำไรซองละ 1.84 บาท หรือกล่องละ 55.20 บาทเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ได้กำไรกล่องละ 35.10 บาท
หลังจากที่แจ้งการปรับขึ้นราคากับพ่อค้า แม่ค้า ที่มาซื้อเพื่อนำไปขายต่อที่ร้าน พบว่า พ่อค้าแม่ค้าเหล่านี้ ต่างสั่งซื้อมาม่าแบบยกลังเพิ่มขึ้นจำนวนมาก โดยบางรายจากเดิมซื้อเป็นกล่อง 3-4 กล่องเปลี่ยนเป็นซื้อยกลัง (6 กล่อง) บางรายสั่งซื้อเพิ่มจากเดิม 1 ลัง เพิ่มขึ้นเป็น 2 ลัง เพราะไม่อยากจ่ายเงินมากขึ้น
“ช่วงนี้ขายได้มากกว่าเดิม เพราะพ่อค้าแม่ค้า กลัวว่าจะปรับราคาขึ้น จึงซื้อไปตุนไว้ขายก่อน ซึ่งมาม่าแบบลังยังมีขาย ไม่ขาดตลาด”
เมื่อถามว่า กระทรวงพาณิชย์ ยังไม่ให้ปรับราคา แต่ทำไมยังขึ้นราคาได้ เจ้าของร้านคนเดิมตอบว่า รถส่งแจ้งว่า ปรับราคาขึ้นได้แล้ว