นับถอยหลังระยะเวลาการทำงานของรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ช่วงเวลานี้โครงการสำคัญต่าง ๆ กำลังทยอยนำเสนอให้กับรัฐบาลเห็นชอบ ล่าสุดในวันนี้ (27 กุมภาพันธ์) นายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานเชิงพื้นที่แบบบูรณาการ (ก.น.บ.) และได้เห็นชอบแผนพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัดเรียบร้อย
ไฟเขียวงบจังหวัด 41,903 ล้าน
ที่ประชุมมีมติเห็นชอบผลการพิจารณากลั่นกรองแผนและโครงการของจังหวัด กลุ่มจังหวัด และส่วนราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ประกอบด้วย
1.แผนพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัด พ.ศ. 2566 – 2570 ฉบับทบทวน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567
2.แผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด รวม 1,747 โครงการ 41,903 ล้านบาท โดยเป็นงบประมาณที่เห็นควรสนับสนุนในกรอบวงเงิน 1,346 โครงการ 29,314 ล้านบาท และงบประมาณที่เห็นควรสนับสนุนเกินกรอบวงเงิน 401 โครงการ 12,588 ล้านบาท
3.ข้อเสนอโครงการของส่วนราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ที่สอดคล้องกับเป้าหมายและแนวทางการพัฒนาภาค 364 โครงการ โดยให้สำนักงบประมาณให้ความสำคัญและพิจารณาสนับสนุนงบประมาณต่อไป
กำหนดเป้าหมาย-ทิศทางการพัฒนา
ที่ประชุมยังเห็นชอบนโยบาย หลักเกณฑ์ และวิธีการจัดทำเป้าหมายและทิศทางการพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัด และการจัดทำแผนและโครงการของจังหวัด กลุ่มจังหวัด และส่วนราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 – 2570 ประกอบด้วย
นายกฯ กำชับใช้งบให้คุ้มค่า
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการประชุมว่า นายกรัฐมนตรี ย้ำคณะกรรมการ ก.น.บ. และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้ความสำคัญกับการบริหารราชการแนวใหม่ ที่มีการวางแผนในการปฏิบัติงานอย่างเป็นระบบประสานสอดคล้องกันทุกหน่วยงาน รวมถึงการบูรณาการงบประมาณทั้งงบประมาณฟังก์ชัน งบประมาณจังหวัด
เช่นเดียวกับงบประมาณอื่น ๆ ตามนโยบายที่ได้จัดสรรลงไปในพื้นที่ จึงขอให้ทุกฝ่ายช่วยกันเผยแพร่สร้างการรับรู้ให้สังคมและประชาชนได้รับทราบถึงการทำงานและประโยชน์ที่ได้รับจากการดำเนินงานนโยบายและการปฏิบัติดังกล่าวอย่างทั่วถึง เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องและพร้อมร่วมมือกันขับเคลื่อนพัฒนาประเทศต่อไป
นายกฯ ยังย้ำถึงการจัดทำแผนงานโครงการต่าง ๆ ของจังหวัดและกลุ่มจังหวัดต้องมีการกลั่นกรองจากพื้นที่และให้ตรงกับความต้องการของพื้นที่และท้องถิ่น รวมทั้งดำเนินการให้สอดคล้องกับงบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัดให้คุ้มค่า เกิดประโยชน์สูงสุด โปร่งใส เป็นธรรม ตรวจสอบได้ และมีประสิทธิภาพ
ขณะเดียวกันในเรื่องของการท่องเที่ยวต้องทำให้เกิดการเชื่อมโยงเมืองหลักและเมืองรอง รวมไปถึงการให้ความรู้และพัฒนาทักษะอาชีพให้กับคนในพื้นที่ โดยเฉพาะกลุ่มบุคคลที่ไม่ได้เรียนจบหรือผ่านสถาบันการศึกษาในระดับปริญญา แต่เป็นผู้ที่มีความรู้ความสารถและเชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีและดิจิทัลต่าง ๆ ต้องพัฒนาสร้างอาชีพให้กับบุคคลเหล่านี้ให้มีอาชีพที่มั่นคง และมีรายได้เลี้ยงดูตนเองและครอบครัวด้วย
บี้ผู้ว่าฯ ทุกจังหวัดทำงานให้ตรงเป้า
นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับการพัฒนาพื้นที่โดยการจัดทำแผนงานโครงการต้องตรงกับความต้องการของพื้นที่และศักยภาพของแต่ละพื้นที่ โดยกำชับผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดให้ทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด เกิดความทั่วถึง เป็นธรรม และทำงานเชิงรุกในการขับเคลื่อนแผนงานโครงการต่าง ๆ ให้บรรลุผลตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ มีประสิทธิภาพ โปรงใส ตรวจสอบได้
รวมทั้งร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และใช้จ่ายงบประมาณเป็นไปอย่างคุ้มค่า เหมาะสมตามความจำเป็นเร่งด่วน รวมทั้งขอให้ฝ่ายเลขานุการ สำนักงบประมาณ จังหวัดและกลุ่มจังหวัด มีการติดตามความก้าวหน้าในการดำเนินแผนงานโครงการต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องใกล้ชิด เพื่อปรับปรุงแก้ไขการทำงานอย่างตรงจุดและสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
พร้อมย้ำว่า ทุกภาคและทุกจังหวัดมีศักยภาพของตนเองอยู่แล้ว ดังนั้นต้องพัฒนาให้สอดคล้องกับศักยภาพของแต่ละพื้นที่ รวมถึงการให้ความสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ และทำให้เกิดการเชื่อมโยงติดต่อกันระหว่างกันของคนในแต่ละพื้นที่และแต่ละจังหวัดให้มากขึ้น ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อให้เกิดพลวัตการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระดับพื้นที่ อันจะส่งดีต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศด้วย