สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 12.10 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ 1,983.80 ดอลลาร์/ออนซ์ แต่ปรับตัวขึ้น 0.5% ในรอบสัปดาห์นี้
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 8 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 23.339 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 9 ดอลลาร์ หรือ 0.9% ปิดที่ 983.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 18.40 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 1,414.40 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำปรับตัวผันผวน โดยปิดลดลงหลังจากที่ดีดตัวขึ้นในช่วงแรก เนื่องจากนักลงทุนพากันเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในภาคธนาคาร
ราคาทองปรับตัวลงจากแรงขายในฐานะที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากที่นายโอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี และนักวิเคราะห์กล่าวแสดงความเชื่อมั่นเกี่ยวกับสถานะทางการเงินของดอยซ์แบงก์
นายโชลซ์กล่าวในวันศุกร์ว่า ดอยซ์แบงก์ได้ผ่านการปรับโครงสร้างแล้ว และมีการปรับรูปแบบธุรกิจให้ทันสมัย รวมทั้งเป็นธนาคารที่สามารถทำกำไรอย่างมาก นักลงทุนจึงไม่ควรคาดเดาเกี่ยวกับอนาคตของทางธนาคาร
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์หลายรายก็ได้ออกมาสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนเช่นกัน โดยระบุว่า ดอยซ์แบงก์จะไม่กลายเป็นโดมิโนตัวต่อไปจากเครดิต สวิส โดยธนาคารมีกำไรถึง 5 พันล้านยูโร (5.4 พันล้านดอลลาร์) ในปี 2565 ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 159% เมื่อเทียบกับปี 2564 และสามารถทำกำไรถึง 10 ไตรมาสติดต่อกัน
นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับปัจจัยลบจากการแข็งค่าของดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.58% แตะที่ระดับ 103.1123 ในวันศุกร์
ทั้งนี้ การแข็งค่าของดอลลาร์ส่งผลให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ