"อึ่งไข่" วาทกรรมใหม่การเมือง เปิดธุรกิจหลักล้าน ส่งออกนอก ราคาพุ่ง 3ตัวพัน

27 ส.ค. 2566 | 10:28 น.
อัปเดตล่าสุด :27 ส.ค. 2566 | 10:42 น.

"อึ่งไข่" วาทกรรมใหม่ทางการเมือง สู่การตั้งฉายารัฐบาลเพื่อไทย "รัฐบาลอึ่งไข่"จากนักวิชาการ เปิดมุมธุรกิจหลักล้าน จากการส่งออกนอก"อึ่งไข่" ราคาพุ่ง 3ตัวพัน รับกระแสนิยมรับประทาน

"อึ่งไข่" กลายมาเป็นวาทกรรมใหม่ทางการเมือง หลังจากผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกลได้เกิดการวิวาทะกันถึงการอ้างอิงคะแนนเสียงที่ได้รับจากการเลือกตั้ง แม้กระทั่งนักวิชาการอย่าง รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ผู้อำนวยการหลักสูตรการเมือง และยุทธศาสตร์การพัฒนา สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) ก็ยังโพสต์เฟซบุ๊ก ตั้งฉายารัฐบาลนี้ว่าเป็น "รัฐบาลอึ่งไข่" ด้วยเช่นกัน

รัฐบาลอึ่งไข่

 

โดยรศ.ดร.พิชาย อธิบายที่มาของการตั้งชื่อรัฐบาลว่า "รัฐบาลอึ่งไข่"ว่า คำนี้มาจากกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทยเอง จึงเหมาะสมกับสถานการณ์ เพราะรัฐบาลนี้รวมพรรคการเมืองหลายพรรคจนท้องโตคล้ายอึ่งไข่ พร้อมระบุให้ต้องระวังตัวครอบครัวอึ่งไข่สูญพันธุ์ได้ ในการเลือกตั้งครั้งหน้า เนื่องจากเป็นอาหารยอดนิยมมากในปัจจุบัน

แท้ที่จริง "อึ่งไข่" จัดเป็นอาหารพื้นบ้านที่ในปัจจุบันได้รับความนิยมไกลไปถึงต่างประเทศ โดยเพจประเทศโคราชได้เผยแพร่ภาพ และข้อมูลว่า สินค้าอึ่งไข่ในน้ำเกลือบรรจุกระป๋อง ของประเทศไทย ได้ส่งออกไปยังประเทศอเมริกา และสามารถทำราคาขายได้สูงถึงกระป๋องละ 875 บาท ซึ่งภายในกระป๋อง บรรจุอึ่งไข่แช่น้ำเกลือจำนวน 3 ตัว สำหรับราคาขายในประเทศไทยจะอยู่ที่ 350 บาทต่อกระป๋อง

อึ่งไข่กระป๋อง

"ฐานเศรษฐกิจ" ได้ตรวจสอบข้อมูลการทำธุรกิจของ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บุญผลา อีสาน ฟู๊ด เจ้าของธุรกิจ "อึ่งไข่"บรรจุกระป๋อง ผ่านระบบบริการวิเคราะห์ข้อมูลบริษัทครบวงจร Creden Data จากฐานข้อมูลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบข้อมูลงบการเงินนำส่ง ปี 2565 มีข้อมูลดังนี้

  • สินทรัพย์รวม 1,016,212 บาท 
  • หนี้สินรวม 22,728 บาท 
  • รายได้รวม 1,720,853 บาท 
  • รายจ่ายรวม 1,303,645 บาท 
  • กำไรสุทธิ 400,005 บาท

ดังนั้นจะเห็นได้ว่า แม้ "อึ่งไข่" จะเป็นอาหารพื้นบ้าน แต่สามารถส่งออกต่างประเทศ และทำกำไรได้หลายแสนบาท จากกระแสความนิยมรับประทาน "อึ่งไข่"ที่มีในปัจจุบัน