นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่าตามที่เกิดเหตุการณ์การโจมตีสู้รบในเขตฉนวนกาซาและพื้นที่ต่าง ๆ ในอิสราเอลตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนชาวไทยในอิสราเอลทั่วประเทศจํานวนกว่า 30,000 คนนั้น
วันนี้ รัฐบาลมารอต้อนรับผู้อพยพเป็นครั้งที่ 3 จํานวน 90 คน และรัฐบาลได้ออกมาตรการช่วยเหลือ เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบในอิสราเอล ดังนี้
1. เยียวยาแรงงานไทยที่เดินทางไปทํางานในอิสราเอลในกรณีบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากสงคราม เป็นไปตาม สิทธิประโยชน์ที่ได้รับจากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทํางานในต่างประเทศ ซึ่งมีการเยียวยาคนที่เดินทางกลับประเทศเนื่องจากภาวะสงคราม
รวมถึงกรณีพิการและเสียชีวิต และค่าใช้จ่ายในการจัดการศพใน ต่างประเทศเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 40,000 บาท (แต่ในกรณีของอิสราเอล ทางการอิสราเอลจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการส่งร่างผู้เสียชีวิตกลับภูมิลำเนาด้วย)
2. นายกรัฐมนตรีได้มีบัญชาให้รัฐบาลไทยรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการซื้อบัตรโดยสารเครื่องบินของพี่น้องชาวไทยที่ออกเงินค่าบัตรโดยสารเครื่องบินกลับประเทศไทยเอง ตั้งแต่มีการ ประกาศภาวะสงครามในอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ที่ผ่านมา
3. ทั้งนี้ ได้มีเอกชนรายแรก คือ โรงแรมเอสซีปาร์ค ติดต่อเข้ามาเพื่อขออาสา บริการสนับสนุนรัฐบาลในรูปแบบของค่ารถรับส่ง ค่าห้องพักและอาหารสําหรับคนไทยที่อพยพและต้องการมาพักที่กรุงเทพฯ ก่อนกลับภูมิลําเนา
นอกจากนั้น AIS ได้บริจาค SIM สนับสนุนภารกิจให้เจ้าหน้าที่ และ AIS กับ TRUE/DTAC ได้ช่วยส่งข้อความข่าวสารทาง SMS ให้กับพี่น้องคนไทยในอิสราเอลที่ใช้บริการ roaming นับตั้งแต่เมื่อวาน ซึ่งเป็นการช่วยกระจายข่าวสารให้กว้างขวางขึ้น
ภาคเอกชนท่านใดที่ประสงค์จะสนับสนุนในรูปแบบต่าง ๆ ตามความสะดวกก็สามารถติดต่อมาได้ครับ
ทั้งนี้ รัฐบาลขอยืนยันว่าได้ทํางานตลอด 24 ชม. ทุกวิถีทางเพื่อให้คนไทยได้กลับบ้านสู่ครอบครัว