นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าการทำธุรกรรมต่างๆร่วมกับผู้อื่นในการทำธุรกิจนั้นจะต้องมีความระมัดระวังในการตรวจสอบผู้ที่จะร่วมทำธุรกิจด้วยทุกครั้งเพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากการทำธุรกรรมต่างๆร่วม ดังนั้นกรมฯในฐานะที่ให้บริการจดทะเบียนธุรกิจ
บริการข้อมูลนิติบุคคลแก่ประชาชน ควบคู่กับการกำกับดูแลธุรกิจให้มีธรรมาภิบาล ได้ติดตามและตรวจสอบการดำเนินธุรกิจของภาคธุรกิจมาโดยตลอดเพื่อสร้างความปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้บริการ และเกิดความน่าเชื่อถือในงานบริการของกรมฯ
ล่าสุด กรมฯ ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนและมีการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่า มีธุรกิจหรือผู้ไม่หวังดีได้นำใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัท (แบบ พค.0401) ซึ่งเป็นเอกสารที่กรมฯ ได้ออกให้หลังจากที่รับจดทะเบียนฯ เพื่อแสดงว่าได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เรียบร้อยแล้ว และนำไปปลอมแปลงเป็นชื่อธุรกิจของตนเอง
จากการได้ตรวจสอบรายชื่อและเลขทะเบียนนิติบุคคลไม่พบว่า มีการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจจริง และมีการตัดต่อข้อความที่ระบุอยู่ในแบบ พค.0401 ให้มีลักษณะว่าธุรกิจได้มีการจดทะเบียนจัดตั้งกับกรมฯ และนำไปอ้างความน่าเชื่อถือแก่ประชาชนที่พบเห็น ซึ่งถือว่าเป็นการปลอมแปลงเอกสารทางราชการ สร้างความเสียหายต่อความน่าเชื่อถือในการให้บริการข้อมูลนิติบุคคลของกรมฯ อย่างมาก และเข้าข่ายหลอกลวงประชาชน ซึ่งขณะนี้ กรมฯ อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีเอาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษต่อไป
“กรมฯ ขอเตือนประชาชนให้ใช้ความระมัดระวังก่อนร่วมลงทุนหรือทำธุรกรรม โดยต้องตรวจสอบความมีตัวตนของธุรกิจให้มั่นใจเสียก่อน สำหรับการตรวจสอบแบบ พค.0401 ว่าเป็นของจริงหรือไม่ สามารถพิจารณาได้จากชื่อของนิติบุคคลต้องพิมพ์เป็นภาษาไทยเท่านั้น และต้องมีลายน้ำเป็นตราสัญลักษณ์กระทรวงพาณิชย์ หรือนำเลขทะเบียนนิติบุคคลไปตรวจสอบข้อมูลนิติบุคคลผ่าน 2 ช่องทางคือ 1) Mobile Application: DBD e-Service และ 2) เว็บไซต์กรมฯ www.dbd.go.th เท่านั้น”