กระทรวงการคลังเผย ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนตุลาคม 2565 พบว่าแสดงถึงความเชื่อมั่นในอนาคตที่เพิ่มขึ้นในทุกภูมิภาค โดยเฉพาะภาคตะวันออก ภาคใต้ ภาคตะวันตก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง นายวุฒิพงศ์ จิตตั้งสกุล ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง และนายพิสิทธิ์ พัวพันธ์ ผู้อำนวยการกองนโยบายเศรษฐกิจมหภาค กล่าวว่า อย่างไรก็ดี ยังมีความกังวลต่ออัตราเงินเฟ้ออัตราแลกเปลี่ยน และการเกิดอุทกภัยในบางภูมิภาค โดยมีรายละเอียดดังนี้
ภาคตะวันออก ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจอยู่ที่ระดับ 77.4 ปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าแสดงถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่เพิ่มขึ้น โดยเป็นความเชื่อมั่นที่ดีขึ้นในภาคบริการ เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวในประเทศและต่างประเทศเพิ่มขึ้น จากการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว อีกทั้งยังมีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจภาคเกษตรในอนาคตที่ดีขึ้น เนื่องจากเข้าสู่ฤดูกาลเก็บเกี่ยวพืชเศรษฐกิจสำคัญ เช่น เงาะ มังคุด และทุเรียน เป็นต้น
ภาคใต้ ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจอยู่ที่ระดับ 75.0 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่อยู่ในระดับสูงโดยเฉพาะในภาคบริการ เนื่องจากผลประกอบการของธุรกิจภาคบริการดีขึ้น จากการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวของทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ต่อเนื่อง ประกอบกับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเดินทางข้ามแดนมาท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น และในภาคการลงทุน เนื่องจากผู้ประกอบการภาคบริการส่วนหนึ่งมีการลงทุนขยายกิจการเพิ่มขึ้น
ภาคตะวันตก ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจอยู่ที่ระดับ 74.9 ปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าแสดงถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่เพิ่มขึ้น โดยเป็นความเชื่อมั่นที่ดีขึ้นในภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากมีการเพิ่มกำลังการผลิตสินค้าอุตสาหกรรม จากยอดคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งยังมีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจภาคบริการในอนาคตที่ดีขึ้น เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับเข้าสู่ฤดูการท่องเที่ยว
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจของภาคอยู่ที่ระดับ 74.0 ปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า แสดงถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่เพิ่มขึ้น โดยเป็นความเชื่อมั่นที่ดีขึ้นในภาคบริการ เนื่องจากมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว จากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนต่อเนื่อง และในภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากความต้องการสินค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มอาหารแปรรูป
ภาคเหนือ ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจอยู่ที่ระดับ 68.3 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ยังอยู่ในระดับสูงโดยเฉพาะในภาคบริการ เนื่องจากเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวทำให้นักท่องเที่ยวในประเทศและต่างประเทศเพิ่มขึ้น ประกอบกับมีการจัดงานประเพณีประจำท้องถิ่น เช่น การแข่งขันเรือยาว เป็นต้น และในภาคการลงทุน เนื่องจากผู้ประกอบการ ทั้งภาคบริการและอุตสาหกรรม มีการลงทุนขยายกิจการเพิ่มขึ้น
ภาคกลาง ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจอยู่ที่ระดับ 57.2 แสดงถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่ยังอยู่ในระดับสูง โดยเป็นความเชื่อมั่นที่ดีขึ้นในภาคบริการ เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ประกอบกับมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว จากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนต่อเนื่อง และในภาคอุตสาหกรรม ที่ยอดการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ อย่างไรก็ตาม ในบางพื้นที่ของภาคกลางยังมีความกังวลต่อการเกิดอุทกภัยในอนาคต
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจของ กทม. และปริมณฑลอยู่ที่ระดับ 52.7 แสดงถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่เพิ่มขึ้น โดยเป็นความเชื่อมั่นที่ดีขึ้นในภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากยอดคำสั่งซื้อสินค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และในภาคเกษตรจากความต้องการสินค้าเกษตรของประชาชนในพื้นที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล มีความกังวลต่ออัตราเงินเฟ้อและอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวน
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนได้จากการประมวลผลข้อมูลการสำรวจภาวะเศรษฐกิจรายจังหวัด จากสำนักงานคลังจังหวัด 76 จังหวัดทั่วประเทศ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เพื่อจัดทำดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค