นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวถึงมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2565 ที่เคาะผ่านร่างกฎกระทรวง เรื่องให้สิทธิคนต่างชาติ 4 กลุ่ม ถือครองที่ดินได้ไม่เกิน 1 ไร่ โดยต้องลงทุนไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท อย่างน้อย 3 ปีว่า หอการค้าได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อศึกษาผลดีผลเสียจากกรณีดังกล่าวเช่นกัน
“คณะทำงานจะว่าจ้างสถาบันที่เชี่ยวชาญมาศึกษาผลกระทบ ผลดี ผลเสียที่จะเกิดขึ้น ซึ่งได้วางกรอบการศึกษาไว้ว่าต้องการให้ศึกษาอะไรบ้าง โดยคาดว่าภายในปลายปีนี้จะรับรู้ข้อมูลทั้งหมด แล้วหอการค้าไทยจะเสนอผลศึกษาให้กับรัฐบาลรับทราบต่อไป”
พร้อมกันนี้ จะนำข้อมูลดังกล่าวเข้าพูดคุยหารือกับต่างประเทศในการประชุมเอเปคด้วย พร้อมทั้งศึกษาแนวทางของแต่ละประเทศว่ามีแนวทางการดำเนินการ วางเงื่อนไข กฎหมาย กฎระเบียบไว้อย่างไร จำเป็นจะต้องมีการแก้ไขกฎหมายหรือไม่ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด
อย่างไรก็ตามการที่รัฐบาลมีแนวคิดให้ต่างชาติถือครองที่ดินในไทยได้หากมีการลงทุนตามเงื่อนไขไม่ได้มองว่าเป็นการขายชาติ แต่มองว่าการดำเนินการของรัฐบาลครั้งนี้มีความตั้งใจดี และมองว่าเศรษฐกิจโลกในปีหน้าจะมีการชะลอตัว
ดังนั้น เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะของประเทศไทยก็จำเป็นจะต้องหาช่องทางเพื่อดึงดูดการลงทุนให้มากที่สุด โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความพร้อม เช่น อีอีซี แล้วขยายโอกาสไปในพื้นที่อื่น ๆ มากขึ้น
“ มีหลายคนไม่เห็นด้วยและมองว่ารัฐขายชาติ ในส่วนตัวแล้วมองว่าไม่คิดเช่นนั้น ทุกรัฐบาลที่เข้ามาบริหารโดยการเลือกของประชาชน ต่างได้รับการยอมรับให้เข้ามาแล้วเชื่อว่ารัฐบาลต้องการที่จะสร้างประโยชน์สูงสุด ซึ่งหอการค้าก็พร้อมที่จะศึกษาเพื่อเป็นข้อมูลให้กับประชาชนในการตัดสินใจต่อไป เพราะประชาชนคนไทยถือว่าเป็นเจ้าของประเทศเช่นเดียวกัน”