ทองคำนิวยอร์กพุ่ง 35.5 ดอลล์ คาดเฟดชะลอขึ้นดบ. หากรีพับลิกันชนะเลือกตั้ง

09 พ.ย. 2565 | 00:02 น.
อัปเดตล่าสุด :09 พ.ย. 2565 | 07:13 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันอังคาร (8 พ.ย.) โดยได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหากพรรครีพับลิกันคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งกลางเทอม

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 35.5 ดอลลาร์ หรือ 2.11% ปิดที่ 1,716 ดอลลาร์/ออนซ์
         

  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 58.3 เซนต์ หรือ 2.79% ปิดที่ 21.502 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 25.1 ดอลลาร์ หรือ 2.54% ปิดที่ 1,014.5 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 35.10 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 1,932.60 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาทองคำได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.44% แตะที่ระดับ 109.6390 เมื่อคืนนี้
         

ทั้งนี้ การอ่อนค่าของดอลลาร์จะทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ
           

นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้ปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหากพรรครีพับลิกันคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งกลางเทอม
         

"หากพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐหรือรวมทั้งวุฒิสภา ก็จะทำให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดนประสบความยากลำบากในการผลักดันมาตรการกระตุ้นทางการคลัง ซึ่งจะทำให้เฟดสามารถผ่อนคันเร่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย" นายเดเมียน โบอีย์ หัวหน้านักวิเคราะห์จาก Barrenjoey กล่าว


ด้านนายแจน แฮตซิอุซ หัวหน้านักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ ระบุว่า เฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หากพรรคเดโมแครตชนะการเลือกตั้ง เนื่องจากประธานาธิบดีโจ ไบเดนจะผลักดันมาตรการใช้จ่ายของรัฐบาล ซึ่งจะทำให้เฟดคุมเข้มนโยบายการเงินเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
         

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐในวันพฤหัสบดีนี้ โดยดัชนี CPI เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค และเป็นข้อมูลที่เฟดใช้ประกอบการตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการเงิน ซึ่งหากดัชนี CPI ออกมาสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ก็อาจผลักดันให้เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย