นายปิยะดิษฐ์ อัศวศิริสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ซีวิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) หรือ CIVIL เปิดเผยถึง ผลประกอบการสิ้นปี 2565 ทำรายได้รวมกว่า 5 พันล้านบาท เติบโตจากงวด 9 เดือน ปี 2565 ที่มีรายได้รวม 4,629 ล้านบาท พร้อมยอมรับว่า ช่วงวิกฤตโควิด -19 ได้รับผลกระทบมากพอสมควร ส่งผลให้ช่วง 9 เดือนแรก ขาดทุนสุทธิ 69 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 57 ล้านบาท
"ปีที่แล้ว ปิดรายได้ ประมาณกว่า 5 พันล้านบาท ซึ่งถือว่ามีการเติบโตพอสมควร ในขณะที่ต้นทุนการก่อสร้างเพิ่มขึ้น และราคาวัสดุค่อนข้างผันผวน แต่เชื่อว่าปี 2566 น่าจะพอมีรอยยิ้มกันได้บ้าง" นายปิยะดิษฐ์กล่าว
สำหรับปี 2566 บริษัทยังเดินหน้าประมูลโครงการก่อสร้างต่างๆ เข้ามาเพิ่มเติมต่อเนื่อง อาทิ โครงการที่บางบาน บางไทร และปลายปี อาจจะมีสนามบินที่ระนอง รวมถึงงานถนนที่จังหวัดกระบี่ คาดว่าโดยรวมทั้งโปรเจคเล็กและใหญ่ ภายในปี 2566 จะมีโครงการที่เข้าไปดำเนินการไม่ต่ำกว่า 10 โครงการ และคาดว่าสามารถผลักดันรายได้ให้เติบโตแตะ 6 พันล้านบาท
นายปิยะดิษฐ์ กล่าวว่า ช่วงโควิดที่ผ่านมา บริษัทได้รับผลกระทบมาตลอด เพราะมันเป็นวิกฤตซ้อนวิกฤต นอกจากแรงงานที่มีปัญหา เรื่องต้นทุนวัสดุต่างๆ ที่ทั้งขึ้นราคาและมีบางอย่างขาดตลาด จึงทำให้การเดินหน้าโครงการก่อสร้างต่างๆ ไม่ง่ายนัก ทำให้ปีที่แล้ว ซึ่ง CIVIL เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ แต่ก็ยังเหนื่อย แต่ด้วยรากฐานที่มี ทั้งงานและความพร้อม ทำให้สามารถขับเคลื่อนธุรกิจเดินหน้าได้ต่อเนื่อง และปีนี้ เมื่อทุกอย่างเริ่มคล่องตัวมากขึ้น ก็น่าจะเดินหน้าได้ดีขึ้น
สำหรับต้นทุนโดยรวมของ CIVIL ขยับขึ้นประมาณ 3-4% เมื่อ CIVIL เข้าตลาดฯ ก็สามารถดูแลเรื่องต้นทุนการเงินได้ ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ก็มีโครงการที่ได้รับดำเนินการค่อนข้างเยอะ จึงช่วงเฉลี่ยต้นทุนให้สามารถดำเนินการได้ ขณะนี้สิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการ คือการพยายามทำให้ความสามารถในการแข่งขันของบริษัทดีขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งคือ ใครต้นทุนต่ำ คือ ชนะ และนี่คือสิ่งที่ CIVIL กำลังพยายามอยู่