รัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบราง เชื่อมโยงการเดินทาง กระจายความเจริญครอบคลุมในทุกพื้นที่ เพราะนอกจากประหยัดต้นทุนพลังงาน ลดมลพิษทางอากาศ มีความปลอดภัยสูงแล้วยังเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันเสริมศักยภาพทางด้านการท่องเที่ยวและการขนส่งสินค้าในปริมาณที่สูงขึ้น
ขณะการก่อสร้างมีหลายเส้นทางคืบหน้าไปมาก เช่น โครงการก่อสร้าง รถไฟทางคู่ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 145 กิโลเมตร วงเงิน 2.15 หมื่นล้านบาท มีความก้าวหน้า ไปมากคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี2566
ล่าสุดนายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) ลงพื้นที่ ติดตามความก้าวหน้าบริเวณสถานีลพบุรี สถานีนครสวรรค์ฯลฯ เบื้องต้นกรมการขนส่งทางรางและการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ร่วมประสานเร่งรัดการก่อสร้างให้แล้วเสร็จตามแผนที่กำหนดไว้
สำหรับโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ แบ่งเป็น 3 สัญญา ได้แก่
สัญญาที่ 1 ช่วงบ้านกลับ-โคกกระเทียม ระยะทาง 29 กิโลเมตร มีความก้าวหน้า 81.72 % โดยเป็นทางรถไฟยกระดับ 19 กม. และระดับพื้น 10 กิโลเมตร และมีการก่อสร้างสถานีใหม่ 1 แห่ง คือ สถานีลพบุรี 2 บนทางหลวงหมายเลข 366
สัญญาที่ 2 ช่วงท่าแค-ปากน้ำโพ ระยะทาง 116 กิโลเมตร (กม.) มีความก้าวหน้า 75.72 % เป็นโครงสร้างระดับพื้นทั้งหมด โดยก่อสร้างสถานีใหม่ 6 สถานี และก่อสร้างทดแทนสถานีเดิม 11 สถานี โดยมีอาคารควบคุมการเดินรถ (CTC) ที่สถานีนครสวรรค์ 1 แห่ง คาดว่าจะแล้วเสร็จปลายปีนี้
สัญญาที่ 3 งานระบบอาณัติสัญญาณฯ มีความคืบหน้า 26.33% โดยสถานีลพบุรี 2 เป็นสถานียกระดับรองรับรถไฟทางไกลและรถสินค้า ที่ไม่ได้มีปลายทางที่จังหวัดลพบุรี
ส่วนสถานีลพบุรีแห่งเดิมยังคงเปิดให้บริการสำหรับขบวนรถไฟชานเมือง เส้นทางกรุงเทพฯ - ลพบุรี ขบวนรถไฟท้องถิ่นทุกขบวน ที่ชาวลพบุรีใช้เดินทางในชีวิตประจำวันรวมทั้งขบวนรถไฟท่องเที่ยว (KIHA 183) จะยังคงให้บริการเช่นเดิม ที่สถานีเดิม ไม่มีแผนที่จะยกเลิกการใช้งานหรือการย้ายสถานีแต่อย่างใด
ทั้งนี้จะประสานขนส่งจังหวัดลพบุรีจัดให้มีระบบขนส่งสาธารณะเชื่อมต่อระหว่างสถานีลพบุรีเดิมและสถานีลพบุรี 2 เพื่ออำนวยความสะดวกและลดผลกระทบต่อประชาชนผู้ใช้บริการรถไฟ
นอกจากนี้สถานีนครสวรรค์ เป็นสถานีสร้างใหม่ขนาดใหญ่ โดยตัวอาคารของสถานีเดิมจะปรับปรุงให้สำหรับเจ้าหน้าที่เพื่อใช้ปฏิบัติการเดินรถและระบบอาณัติสัญญาณ ในส่วนสถานีปากน้ำโพ เป็นสถานีอนุรักษ์ (Renovate Station) ซึ่งมีความก้าวหน้าประมาณ 16%
นี่คืออีกหนึ่งความสำเร็จของโครงข่ายระบบรางที่จะขยายเส้นทางรองรับการเดินทางของประชาชนในอนาคตอันใกล้นี้!!!