นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังหารือกับนายเสิน ตันหยาง รองผู้ว่าการมณฑลไห่หนาน (Mr. Shen Danyang)ว่าความสัมพันธ์ระหว่างไทย-ไห่หนาน ที่เป็นรูปธรรมที่สุด คือ การทำมินิเอฟทีเอระหว่างกระทรวงพาณิชย์ไทยกับมณฑลไห่หนานของจีน เมื่อ 20 ส.ค. 64 ซึ่งปัจจุบันไทยมีมินิเอฟทีเอกับเมืองหรือมณฑลสำคัญ 7 ฉบับและอนาคตจะมีเพิ่มอีก 6 ฉบับ คาดว่าจะสำเร็จทั้งหมดจะลงนามโดยเร็วที่สุด
สำหรับประเด็นที่มีการหารือในครั้งนี้รัฐบาลจีนได้เชิญให้ไทยเข้าร่วม HAINAN EXPO วันที่ 11-15 เม.ย. นี้ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้ตอบรับเราเข้าร่วมแล้ว 2 ครั้ง ช่วงหลังติด Zero Covid ของจีน ปีนี้จะส่งผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมอย่างน้อย 20 ราย
นอกจากนี้ทาง มณฑลไห่หนานเชิญกระทรวงพาณิชย์ไทยตั้งสำนักงานการค้าเพื่อโปรโมทสินค้าที่มณฑล ตนแจ้งว่ากระทรวงพาณิชย์มีทูตพาณิชย์ที่กวางโจวดูแลในส่วนมณฑลไห่หนาน แต่อนาคตเมื่อมูลค่าการค้าเพิ่มขึ้นเป็นไปได้ที่จัดตั้งสำนักงานที่ไห่หนาน และจะนำมณฑลไห่หนานสู่การเป็นเมืองท่าการค้าเสรีไห่หนาน (Hainan Free Trade Port) หรือเขตเศรษฐกิจพิเศษในอนาคต การพัฒนาแบ่งเป็น 3 ระยะ ระยะที่หนึ่งลดภาษีสินค้านำเข้าเป็นศูนย์บางรายการ เริ่มที่วัตถุดิบในปี 2021 ขั้นต่อไปจะพัฒนาเป็นลำดับ จนตั้งเป้าให้ไห่หนานเป็นเมืองท่าการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุดติดลำดับโลก
ในขณะที่ฝ่ายไทยได้ขอให้ทางมณฑลไห่หนานสนับสนุน 6 ประเด็น เช่น ไทยต้องการต่อยอดมินิเอฟอีเอ ให้มีพัฒนาการยิ่งขึ้นโดยเร็ว เพิ่มมูลค่าการค้าที่ผ่านมาได้จัดเจรจาการค้าซื้อขายสินค้า 4 ครั้ง จัดสัมมนาผู้ประกอบการร่วมกัน 3 ครั้ง และประชุมร่วมกันของเจ้าหน้าที่ระดับสูง 2 ฝ่าย ทำให้มูลค่าส่งออกไทยไปไห่หนานปี 65 เพิ่มขึ้น 66.8% ไทยส่งออกไปไห่หนาน 10,465 ล้านบาท สินค้าสำคัญ เช่น ยางพารา ผลไม้ เคมีภัณฑ์และสินแร่ เป็นต้น เสนอให้จัดเจรจาซื้อขายสินค้าระหว่างกันบ่อยขึ้น เสนอให้ไห่หนานอำนวยความสะดวกให้สินค้าไทยอยู่ในร้านปลอดภาษีของไห่หนาน ท่านรับช่วยดำเนินการและแนะนำสินค้ากลุ่มแฟชั่น เครื่องแต่งกายและของใช้ในชีวิตประจำวันจะเป็นที่สนใจของลูกค้า
“กระทรวงพาณชย์ยังได้ เชิญมณฑลไห่หนานส่งนักธุรกิจร่วมงานแสดงสินค้าไทย 5 งาน คืองาน STLYE Bangkok งาน TAPA เกี่ยวกับชิ้นส่วนยานยนต์ งาน THAIFEX-ANUGA ASIA ด้านอาหาร งาน TILOG ด้านโลจิสติกส์ และ งาน Bangkok Gems & Jewelry Fair ด้านอัญมณีและเครื่องประดับด้วยซึ่งทางจีนเองก็พร้อมที่จะเข้าร่วมงานแสดงสินค้าดังกล่าว”
นอกจากนี้ยังเสนอกำหนดเจ้าหน้าที่ 2 ฝ่ายเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างศูนย์ RCEP Center ของไทย กับศูนย์ Business Service ของไห่หนาน เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกัน
สำหรับ มูลค่าการค้าระหว่างไทยกับไห่หนานปี 65 มีมูลค่า 18,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 91.9% หลังมีมินิเอฟทีส่งออกเพิ่มขึ้น 66.8% มูลค่า 10,465 ล้านบาท ซึ่งจีนยังเป็นตลาดสำคัญของไทย ที่เราต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ แม้มีแรงเสียดทานการส่งออกที่เกิดจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว สงครามรัสเซีย-ยูเครน เงินเฟ้อ และอื่นๆ ตนคิดว่าเราต้องให้ความสำคัญกับจีนในฐานะประเทศคู่ค้าสำคัญต่อไป ซึ่งตั้งเป้าตลาดจีน ส่งออกในปีนี้บวก 1% และสำหรับจีนเรามีมินิเอฟทีเอกับไห่หนานและกานซู่ และกำลังจะมีกับเซินเจิ้นในอีกไม่กี่วันและกับยูนนานต่อไป