ทองคำนิวยอร์กปิดร่วง 14.70 ดอลล์ กังวลเฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์ก ปิดร่วงลงในวันพฤหัสบดี (23 ก.พ.) หลังรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) บ่งชี้ว่าเฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ร่วงลง 14.70 ดอลลาร์ หรือ 0.8% ปิดที่ 1,826.80 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค. 2565
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 37.10 เซนต์ หรือ 1.71% ปิดที่ 21.306 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 7.80 ดอลลาร์ หรือ 0.82% ปิดที่ 945.50 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ร่วงลง 53.60 ดอลลาร์ หรือ 3.6% ปิดที่ 1,428.60 ดอลลาร์/ออนซ์
เฟดเปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 31 ม.ค. - 1 ก.พ. โดยระบุว่า กรรมการเฟดมีความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่ยังคงสูงกว่าระดับเป้าหมาย 2% ของเฟด และตลาดแรงงานยังคงอยู่ในภาวะตึงตัวมาก ด้วยเหตุนี้เฟดควรจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปจนกว่าจะมั่นใจว่าเงินเฟ้ออยู่ในทิศทางขาลงจนแตะระดับเป้าหมาย 2% อย่างยั่งยืน ซึ่งกระบวนการดังกล่าวอาจต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง
นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลว่าข้อมูลเศรษฐกิจและตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐจะเป็นปัจจัยหนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 3,000 ราย สู่ระดับ 192,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 200,000 ราย
ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 4/2565 โดยระบุว่า ตัวเลข GDP ขยายตัว 2.7% ซึ่งแม้ว่าต่ำกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ที่มีการขยายตัว 2.9% แต่ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนเห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง
นักลงทุนจับตาสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันนี้ เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย
ทั้งนี้ ดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ โดยดัชนี PCE สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)