ส่วนปมรถไฟทางคู่ช่วงผ่านเมืองอุดรธานีที่ร้องรฟท.ปรับแบบเป็นทางยกระดับแต่ถูกเบรกจนมีกระแสจะฟ้องศาลปกครอง ที่ประชุมขอใช้การเจรจาต่อ เชื่อยังมีเวลาหาข้อยุติร่วม
เมื่อเร็ว ๆ นี้ที่ห้องประชุมของสำนักงานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดอุดรธานี ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี พ.ท.วรายุส์ ตรีวัฒน์สุวรรณ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดอุดรธานี ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน (กกร.)อุดรธานี เป็นประธานการประชุม กกร.อุดรธานี ครั้งที่ 2/2566
มีนายธนพล กองทรัพย์ไพศาล ประธานหอการค้าจังหวัดอุดรธานี นายสุวัฒน์ วิไลงาม รองประธานหอการค้าจังหวัดอุดรธานี ผู้แทนของนายกสมาคมธนาคารไทยจังหวัดอุดรธานี นางพรพิมล กังวานตระกูล ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดอุดรธานี นายสุทัศน์ แพรสุรินทร์ อุปนายกสมาคมโรงแรมไทย (ภาคอีสาน) อุดรธานี ผู้แทนสมาคมส่งเสริมพ่อค้าจีนจังหวัดอุดรธานี ผู้แทนสมาคมชาวเวียดนามจังหวัดอุดรธานี และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม
โดยในที่ประชุม กกร.อุดรธานี ครั้งนี้ หยิบยก 2 ปัญหาใหญ่ขึ้นมาหารือ ได้แก่ 1.การปรับปรุงผังเมืองรวมจังหวัดอุดรธานีฉบับใหม่ ให้ขยายพื้นที่ให้ครอบคลุมพื้นที่ทั้งอำเภอเมือง ซึ่งจะส่งผลดี ทำให้ภาคธุรกิจหลายภาคส่วนดีขึ้นจากที่พื้นที่เมืองขยายตัว ไม่ได้กระจุกอยู่พื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง และ
2. ปัญหารูปแบบการก่อสร้างทางรถไฟรางคู่ ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ช่วงที่ผ่านจุดตัดกับทางหลวง หมายเลข 216 บริเวณสี่แยกบ้านจั่น อ.เมืองอุดรธานี ที่กกร.มีมติทำหนังสือถึงกรอ.จังหวัด ผ่านผู้ว่าฯ กรอ.กลุ่มจังหวัด กรอ.ภาค จนถึงส่วนกลาง โดยเสนอให้การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) ปรับรูปแบบเป็นทางรถไฟยกระดับช่วงก่อนเข้าเขตตัวเมือง แต่รฟท.ยืนยันแนวทางตามที่ออกแบบเดิม ทำให้กกร.จะยื่นฟ้องศาลปกครองนั้น ขอให้ทุกฝ่ายหันมาใช้แนวทางเจรจาหาทางออก เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อทุกฝ่ายในอนาคต เนื่องจากยังไม่ได้เริ่มก่อสร้าง ยังมีเวลาและโอกาสแก้ไขอยู่
พ.ท.วรายุส์ ตรีวัฒน์สุวรรรณ ประธาน กกร.อุดรธานี เปิดเผยรายละเอียดว่า ที่ประชุมได้มีการหยิบยกปัญหาเรื่องของผังเมืองรวมจังหวัดใหม่ ที่มีดำเนินการของหน่วยงานสำนักผังเมือง กระทรวงมหาดไทย หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งจากส่วนกลางและในพื้นที่ คาดว่าจะมีการประกาศออกมามีผลบังคับใหม่ในอีกไม่ช้านี้ โดยหลักคือจะมีการเปลี่ยนแปลงให้ครอบคลุมพื้นที่อำเภอเมืองทั้งหมด
การปรับปรุงผังเมืองรวมจังหวัดอุดรธานีฉบับใหม่ หากปรับปรุงเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะส่งผลดีกับจังหวัดอุดรธานีในหลายภาคส่วน พื้นที่ของผังเมืองรวมจังหวัด จะขยายพื้นที่จากเดิมออกไปครอบคลุมทั้งเขตพื้นที่อำเภอเมือง ทำให้พื้นที่เมืองจะเติบโตไปตามความเหมาะสมกับความเปลี่ยนแปลง ตามหลักภูมิศาสตร์เมือง ความเติบโตของเมืองจะมีการกระจายตัว ไม่กระจุกอยู่ในเฉพาะพื้นที่
ขณะที่เปิดให้อุตสาหกรรมหลายชนิดสามารถทำได้ ชุมชนที่อยู่อาศัยสามารถรองรับการขยายตัวของเมือง เพราะเป็นความต้องการของประชาชน และภาคประชาสังคมของจังหวัดอุดรธานี ต้องการให้เมืองอุดรธานีมีความเจริญเติบโตไปในแนวทางและทิศทางใด นอกจากนี้แล้วธุรกิจชนิดอื่น ๆ ก็จะเกิดต่อเนื่องตามมา ซึ่งจะสร้างเศรษฐกิจ ความเจริญเติบโต สร้างงาน สร้างรายได้ ให้กับพื้นที่อย่างมั่นคงและยั่งยืน
ส่วนประเด็นปัญหาแบบก่อสร้างรถไฟรางคู่ช่วงขอนแก่น-หนองคาย บริเวณทางตัดทางหลวงหมายเลข 216 ช่วงสี่แยกบ้านจั่น อ.เมืองอุดรธานีนั้น ที่ประชุมเห็นชอบเป็นมติที่ประชุม ให้ กกร.อุดรธานีทำหนังสือในนามของ กกร.อุดรธานี ปรึกษาหาแนวทางแก้ไขในทางที่เป็นได้ โดยจะมีการเสนอแนะทั้งข้อดีข้อเสีย ต่อที่ประชุม กรอ.จังหวัด ผ่านท่านผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี กลุ่มจังหวัด และ กรอ.ภาค ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน โดยทุก ๆ ฝ่ายได้รับผลประโยชน์รวมกัน
ด้านนายธนพล กองทรัพย์ไพศาล ประธานหอการค้าจังหวัดอุดรธานี กล่าวในแนวทางที่สอดคล้องกับความเห็นของประธาน กกร. ในประเด็นปัญหาการปรับปรุงผังเมืองจังหวัดใหม่ ว่า น่าที่จะเกิดผลดีต่อพื้นที่อุดรธานี เพราะผังเมืองรวมจังหวัดฉบับใหม่นี้ ความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้อย่างชัดเจนคือ จะมีการขยายพื้นที่ครอบคลุมทั้งอำเภอเมือง ซึ่งฉบับเดิมกำหนดพื้นที่รอบถนนเลี่ยงเมืองระยะหนึ่งเท่านั้น ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบธุรกิจประเภทต่างๆ สามารถที่จะทำธุรกิจต่างๆได้มากขึ้น เพราะจะมีการผ่อนคลายกฎระเบียบให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น
ที่สำคัญเมืองจะมีความความเจริญเติบโตไปอย่างมีระเบียบแบบแผน ตามเป้าประสงค์การพัฒนาพื้นที่เมืองและชุมชน และทำให้พื้นที่บางส่วนที่อยู่ในพื้นที่ผังเมืองรวมจังหวัดฉบับใหม่ มีโอกาสพัฒนาเกิดเป็นชุมชนเมือง พื้นที่ประกอบการธุรกิจ และมีการเจริญเติบโตของเมือง เป็นการความเติบโตของเมืองและชุมชน ไม่ให้กระจุกอยู่พื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง ซึ่งหอการค้าจังหวัดอุดรธานี ได้มีการติดตามการดำเนินการปัญหา เรื่องของผังเมืองรวมมาโดยตลอด โดยการประสานงานกับสำนักงานโยธาและผังเมืองจังหวัดอุดรธานี
ในส่วนของปัญหาแบบก่อสรางทางรถไฟรางคู่ที่บริเวณสี่แยกบ้านจั่น ยังขอยืนยันและเสนอความเห็นต่อที่ประชุม กกร.อุดรธานีครั้งล่าสุดนี้ว่า ทุกฝ่ายต้องหันมาใช้วิธีพูดคุยปรึกษาหารือกัน ช่วยกันแก้ไขปัญหาร่วมกันทั้งฝ่ายเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุก ๆ ฝ่าย ช่วยกันหาทางแก้ไขให้ทุกฝ่ายได้รับผลประโยชน์ด้วยกันอย่างเป็นธรรม โดยเฉพาะในพื้นที่ อย่าใช้วิธีการดื้อดึงและยืนกระต่ายขาเดียว ทุกอย่างต้องทำให้เกิดประโยชน์ด้วยกัน ควรที่จะให้เวลาแก่ทุกฝ่าย โดยเฉพาะปัจจุบันโครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่ ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ก็ยังไม่ได้ทำการก่อสร้างแต่อย่างใด รัฐบาลก็กำลังจะเปลี่ยนใหม่ เพราะเมื่อรัฐบาลใหม่จะมีนโยบายในประเด็นนี้อย่างไร ทุกอย่างอาจจะเปลี่ยนแปลงไปได้
กกร.อุดรธานี ในฐานะของภาคเอกชน ต้องปล่อยให้หน่วยงานที่สูงขึ้นไปในรัฐบาลใหม่ เป็นผู้เข้ามาแก้ไขปัญหาดังกล่าว และเห็นด้วยกับการที่ กกร.จะทำหนังสือเสนอถึงผู้ว่าราชการจังหวัด ผ่านที่ประชุม กรอ.จังหวัด ไปตามขั้นตอน จนถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสูงสุด ให้เข้ามาดูแก้ไขปัญหาดังกล่าว ขอย้ำว่าทุกฝ่ายต้องร่วมกันแก้ไขปัญหาทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อทุกฝ่าย อย่าใช้วิธีการยืนกระต่ายขาเดียว นายธนพลฯกล่าว
ขณะที่นางพรพิมล กังวานตระกูล ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัด เปิดเผยว่า ได้แจ้งให้ที่ประชุม กกร.อุดรธานี ทาง สมาคม สทน. ได้แจ้งทาง สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดอุดรธานี เป็นเบื้องต้นว่า มีแผนการที่จะพานักท่องเที่ยวจีน ในลักษณะกรุ๊ปทัวร์เดินทางผ่านด่านชายแดนหนองคาย เข้ามาในพื้นที่หนองคาย อุดรธานี และฯลฯ แต่ไม่ได้แจ้งรายละเอียดมาให้ เพียงแต่จะให้พื้นที่เป็นผู้จัดทำโปรแกรมต่าง ๆ ให้เท่านั้น และกำลังรอรับแจ้งรายละเลียดและขั้นตอนต่าง ๆ จากทางสทน.อยู่
โดยก่อนหน้านั้น มีเจ้าหน้าที่ระดับสูง ของสำนักงาน ททท.ประจำนครคุนหมิง พร้อมกับผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวของคุนหมิงจำนวนหนึ่ง เดินทางมาประชุมร่วมกับสมาคมการท่องเที่ยวจังหวัดอุดรธานี หนองคาย เพื่อแลกเปลี่ยนและวางแนวทางร่วมกัน ในลักษณะจับคู่ธุรกิจ(บิซิเนส แม็ทชิ่ง) ในการเตรียมการร่วมให้บริการ อำนวยความสะดวก และทำธุรกิจการท่องเที่ยวร่วมกันในเชิงเชื่อมโยงแก่นักท่องเที่ยวจีน ที่คาดว่าจะเริ่มมีการเดินทางมากับขบวนรถไฟจีน-ลาว ในเร็ว ๆ นี้ และมีความเป็นได้สูงที่จะมีการร่วมกันทำธุรกิจร่วมกันในอนาคต