นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้เป็นช่วงที่เศรษฐกิจโลกกำลังฟื้นตัว ถ้ามองในแง่ของคาดการณ์เศรษฐกิจนั้น ก็เป็นการฟื้นตัวในอัตราการเติบโตที่ต่ำ โดยแตกต่างกันในแต่ละภูมิภาค ซึ่งเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียนั้นสวนกระแส เพราะว่าเติบโตได้สูงกว่าปีที่แล้ว ซึ่งต่างจากปีที่แล้วที่ในกลุ่มยุโรปและสหรัฐอเมริกาที่เติบโตได้สูง
ส่วนของแนวโน้มของเศรษฐกิจไทย ในครึ่งหลังปี 2566 นั้น เนื่องจากเศรษฐกิจไทยมีการผูกพันกับเศรษฐกิจโลกสูง โดยในช่วงที่ผ่านมา สหรัฐอเมริการได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง ส่วนในกลุ่มยุโรปก็เพิ่งขึ้นดอกเบี้ย ดังนั้นก็ต้องติดตามสถานการณ์นโยบายทางการเงิน เพื่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อ ถ้าสัญญาณออกมาดีก็น่าจะเป็นผลบวกกับประเทศไทย แต่โดยเนื้อแท้พื้นฐานของเศรษฐกิจไทยนั้นยังคงแข็งแกร่ง
"แม้จะมีความกังวลในเรื่องของการส่งออกที่ลดลงจากที่คาดการณ์ไว้ แต่ยังไม่แน่นอนว่าจะลดลงไปมาก เพราะยังมีเวลาอีกหลายเดือนก่อนถึงสิ้นปีที่จะสร้างรายได้จากการค้าและการส่งออกเพื่อเศรษฐกิจไทยเติบโต ดังนั้น การส่งออกก็ยังจะเป็นแรงผลักดันในปีนี้ได้”
ขณะที่การการขยายตัวภาคส่งออกที่จะติดลบนั้น น่าจะเป็นเรื่องของปริมาณที่ส่งออกลดลง แต่ในแง่ของมูลค่าส่งออกเป็นดอลลาร์สหรัฐฯ น่าจะติดลบเล็กน้อย มาจากเรื่องราคา แต่เท่าที่ประเมินการส่งออกขาปริมาณน่าจะติดลบ ส่วนขามูลค่ายังไม่ได้ติดลบ เพราะอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทไทยกับดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีนี้ค่อนข้างอ่อนตัวเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ทำให้ราคาไม่ได้ลดลงมาก
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีข้อสรุปจะต่ออายุมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลที่จะสิ้นสุด 20 ก.ค.นี้ หรือไม่ นายอาคม กล่าวว่า ในเรื่องของราคาน้ำมันดีเซลก็ต้องช่วยกันดูแล โดยยังคงมีเลาพิจารณาอยู่