สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี แจ้งว่า ขณะนี้ ได้ทำหนังสือเวียนถึงทุกหน่วยงานรับทราบแนวทางปฏิบัติอันเนื่องมาจากการยุบสภาผู้แทนราษฎร เพิ่มเติม หลังจากสำนักงบประมาณ ได้แจ้งให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา รับทราบเกี่ยวกับปลดล็อกการอนุมัติงาน หรือโครงการ เพิ่มเติม
ทั้งนี้ ในคราวประชุมครม. ครั้งล่าสุด นายเฉลิมพล เพ็ญสูตร ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ได้ชี้แจงแนวทางปฏิบัติตามมติครม. เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2566 เรื่อง แนวทางปฏิบัติอันเนื่องมาจากการยุบสภาผู้แทนราษฎร
กรณีการอนุมัติงานหรือโครงการ (มาตรา 169 (1) ของรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย) ได้บัญญัติให้ไม่กระทำการอันมีผลเป็นการอนุมัติงานหรือโครงการ หรือมีผลเป็นการสร้างความผูกพันต่อคณะรัฐมนตรีชุดต่อไป เว้นแต่ที่กำหนดไว้ในงบประมาณรายจ่ายประจำปีนั้น
ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ระบุเพิ่มเติมว่า หากเป็นกรณีการเปลี่ยนแปลงรายการที่ได้กำหนดไว้แล้วในงบประมาณรายจ่ายประจำปี เฉพาะในส่วนของรายละเอียดของรายการและไม่ได้เพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันเกินวงเงินที่ครม. ได้อนุมัติไว้ก็สามารถดำเนินการได้
โดยไม่ถือเป็นกรณีที่ครม.ได้กระทำการอันมีผลเป็นการอนุมัติงาน หรือโครงการ หรือมีผลเป็นการสร้างความผูกพันต่อครม.ชุดต่อไปตามมาตรา 169 (1) ของรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย แต่ประการใด ซึ่งที่ประชุมครม. ได้ลงมติรับทราบตามที่ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณชี้แจง
ขณะเดียวกัน สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ยังได้แจ้งให้ทุกส่วนราชการรับทราบผลการประชุมคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐ ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ 2566 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2566 เพื่อแจ้งต่อไปยังหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลรับทราบรายละเอียด และการเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามแผน
สำหรับรายละเอียดของการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐ ประจำปีงบประมาณ 2566 ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2565 ถึง 31 มีนาคม 2566 ภาพรวมมีการเบิกจ่ายแล้ว 1,955,667 ล้านบาท จากวงเงินงบประมาณและแผนการใช้จ่ายทั้งสิ้น 3,664,673 ล้านบาท คิดเป็น 53.37% สรุปรายละเอียด ดังนี้
ทั้งนี้ ปีงบประมาณ 2566 มีโครงการลงทุนที่มูลค่าโครงการตั้งแต่ 1,000 ล้านบาท ขึ้นไป รวม 112 โครงการ มูลค่าโครงการทั้งหมด 2.68 ล้านล้านบาท เบิกจ่ายแล้ว 68,817 ล้านบาท คิดเป็น 46.12% ของแผนการใช้จ่ายเงิน (ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 - 31 มีนาคม 2566)