การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 สิงหาคม 2566 มีเรื่องน่าสนใจของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เกี่ยวกับการท่องเที่ยว โดยเฉพาะกิจกรรม ท่องเที่ยวดำน้ำดูปะการัง หลังจากที่ประชุมมีมติเห็นชอบ ร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง มาตรการคุ้มครองทรัพยากรปะการังจากกิจกรรมท่องเที่ยวดำน้ำ พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ เสนอ
สาระสำคัญ : เป็นการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการดำเนินกิจกรรมท่องเที่ยวดำน้ำในแนวปะการัง เพื่อประโยชน์ในการสงวนคุ้มครอง อนุรักษ์ และฟื้นฟูทรัพยากรปะการัง
เหตุผลความจำเป็น : กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ รายงานว่า ปัจจุบันแนวปะการังของประเทศไทย 50% อยู่ในสภาพเสียหายและเสื่อมโทรม และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมากขึ้น ซึ่งมีสาเหตุมาจากการท่องเที่ยว โดยเฉพาะกิจกรรมการท่องเที่ยวดำน้ำดูปะการัง ไม่ว่าจะเป็นการดำน้ำตื้นและการดำน้ำลึก ส่งผลกระทบสร้างความเสียหายต่อแนวปะการังเป็นอย่างมากโดยในหลายพื้นที่เข้าขั้นวิกฤติ
โดยสาเหตุหลักมีที่มาจากการขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการท่องเที่ยวดำน้ำที่ถูกวิธี และขาดการควบคุมกำกับดูแลอย่างทั่วถึง เนื่องจากนักท่องเที่ยวมีมากขึ้น ขณะที่คนนำเที่ยวมีจำกัด รวมทั้งขาดจิตสำนึกและความตระหนักในการอนุรักษ์ดูแลแนวปะการัง
อีกทั้งภาครัฐยังไม่มีมาตรการป้องกัน ควบคุม และกำกับดูแลการประกอบกิจกรรมท่องเที่ยวดำน้ำดูปะการังที่สามารถ บังคับใช้ในทางกฎหมายและมีประสิทธิภาพ
ดังนั้น เพื่อเป็นการกำหนดมาตรการทางกฎหมายในการป้องกันความเสียหายที่เกิดกับแนวปะการังอันเกิดจากการประกอบกิจกรรมท่องเที่ยวดำน้ำเป็นการเฉพาะ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ จึงได้ยกร่างประกาศกระทรวงฉบับนี้ขึ้น
รายละเอียดของร่างประกาศ
ร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง มาตรการคุ้มครองทรัพยากรปะการังจากกิจกรรมท่องเที่ยวดำน้ำ พ.ศ. .... กำหนดห้ามมิให้ดำเนินการในบริเวณแนวปะการัง ดังนี้
ทั้งนี้ยังกำหนดให้การประกอบกิจกรรมท่องเที่ยวดำน้ำต้องดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ดังนี้
ขณะเดียวกันยังกำหนดข้อปฏิบัติเกี่ยวกับกิจกรรมดำน้ำลึกในแนวปะการัง ดังนี้
1.ในระหว่างการเรียนหรือสอบดำน้ำลึก ห้ามนักเรียน หรือครูสอนดำน้ำถ่ายภาพใต้น้ำ เว้นแต่จะได้จัดให้มีบุคคลเพื่อทำหน้าที่ถ่ายภาพเป็นการเฉพาะ โดยบุคคลที่ทำหน้าที่ถ่ายภาพต้องสอบผ่านหลักสูตรดำน้ำในระดับที่ Advanced Open Water ของสถาบัน PADI หรือสถาบัน SSI หรือระดับ Advanced Scuba Diver ของสถาบัน NAUI หรือเทียบเท่าขึ้นไป หรือต้องมีประสบการณ์การดำน้ำตั้งแต่ 40 ไดฟ์ขึ้นไป
2.ในการท่องเที่ยวดำน้ำลึก ห้ามนำกล้องลงไปถ่ายภาพใต้น้ำ เว้นแต่เป็นการถ่ายภาพใต้น้ำโดยบุคคลที่ผ่านหลักสูตรดำน้ำในระดับที่ Advanced Open Water ของสถาบัน PADI หรือสถาบัน SSI หรือระดับ Advanced Scuba Diver ของสถาบัน NAUI หรือเทียบเท่าขึ้นไป หรือต้องมีประสบการณ์การดำน้ำตั้งแต่ 40 ไดฟ์ขึ้นไป
นอกจากนี้ตามกฎกระทรวงยังกำหนดห้ามดำน้ำตื้นในแนวปะการังในช่วงเวลาน้ำลง เว้นแต่ระดับน้ำจะสูงกว่า 2 เมตรจากยอดแนวปะการัง พร้อมทั้งกำหนดให้การดำเนินการตามประกาศนี้ไม่ใช้บังคับกับ กิจกรรมที่มิใช่กิจกรรมท่องเที่ยวดำน้ำ เช่น การดำน้ำเพื่อการศึกษาและวิจัยทางวิชาการ การดำน้ำเพื่ออนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งภายใต้การกำกับของหน่วยงานพื้นที่ที่รับผิดชอบ
พร้อมทั้งกำหนดให้ในกรณีที่มีกฎหมายใดกำหนดมาตรการคุ้มครอง ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเรื่องใดไว้ โดยเฉพาะและเป็นมาตรการที่ไม่ต่ำกว่ามาตรการคุ้มครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง หรือมีมาตรการที่ดีกว่าในการคุ้มครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่กำหนดไว้ดังกล่าว ก็ให้เป็นไปตามมาตรการคุ้มครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ที่กำหนดไว้ในกฎหมายนั้น
กำหนดบทลงโทษหนักถึงจำคุก
สำหรับมาตรการตามร่างประกาศดังกล่าวจะมีผลใช้บังคับเป็นเวลา 5 ปี มาตรการดังกล่าวจะไม่ใช้บังคับกับกิจกรรมที่มิใช่กิจกรรมท่องเที่ยวดำน้ำ เช่น การดำน้ำเพื่อการศึกษาและวิจัยทางวิชาการ การดำน้ำเพื่ออนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ภายใต้การกำกับของหน่วยงานพื้นที่ที่รับผิดชอบ
หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติ ตามมาตรการดังกล่าวต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ