คลังหนุนบุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย สร้างรายได้เข้ารัฐ

28 ส.ค. 2566 | 02:23 น.
อัปเดตล่าสุด :28 ส.ค. 2566 | 02:23 น.

คลังแนะเร่งแก้ปัญหาบุหรี่ไฟฟ้า จัดเข้าระบบตามกฎหมาย สร้างรายได้รัฐ-ดูแลสุขภาพประชาชน พร้อมเห็นด้วยปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่อัตราเดียว กันบุหรี่เถื่อนพุ่งทะลัก

นายธีรัชย์  อัตนวานิช รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการการยาสูบแห่งประเทศไทย (กยท.)​ เปิดเผยว่า ต้องการให้ทุกฝ่ายแก้ไขปัญหาบุหรี่ไฟฟ้า ด้วยการนำมาเป็นสินค้าที่ถูกกฎหมาย เพราะทุกวันนี้เป็นสินค้าไม่ถูกกฎหมาย ไม่มีการจัดเก็บภาษี เนื่องจากไม่มีพิกัดภาษีใดๆ ทำให้ไม่สามารถจัดเก็บรายได้ แต่ปัจจุบันมีการสูบบุหรี่ไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก และหาซื้อง่าย ดังนั้นจึงต้องการเสนอแนะให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เร่งแก้ไขปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าโดยเร็วที่สุด

“บุหรี่ไฟฟ้า เป็นสินค้าผิดกฎหมาย แต่หันไปทางไหน คนก็สูบบุหรี่ไฟฟ้า ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองหลายคนก็สูบ ดังนั้นเราควรนำสินค้าที่ไม่ถูกกฎหมาย สินค้าใต้ดิน มาอยู่บนดิน เพื่อสร้างรายได้ให้กับรัฐ​ และเพื่อกำกับดูแลใกล้ชิดทั้งการนำเข้า และสุขภาพของประชาชน  ซึ่งต้องชั่งน้ำหนักระหว่างรายได้รัฐและสุขภาพของประชาชน”

ส่วนกรณีที่กรมสรรพสามิต มีแนวคิดจะปรับโครงสร้างบุหรี่เป็นอัตราเดียว จากปัจจุบันเก็บภาษี 2 อัตรานั้น ต้องเป็นอัตราที่เหมาะสม เพื่อให้เกิดความสมดุล ระหว่างสุขภาพกับรายได้รัฐ รวมถึงต้องลดปัญหาการลักลอบนำเข้าบุหรี่ผิดกฎหมาย หรือบุุหรี่เถื่อนด้วย  ซึ่งปัจจุบันปริมาณบุหรี่เถื่อนในตลาดเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญราว 25%  ดังนั้นต้องเร่งหาจุดเหมาะสม เพื่อลดปริมาณบุหรี่เถืื่อน

“เท่าที่ทราบกรมสรรพสามิต ได้เดินสายหารือการยาสูบฯ บริษัทนำเข้าบุหรี่ กระทรวงสาธารณสุข  เพื่อหาทางออกร่วมกัน เพราะบุหรี่เถื่อน อาจไม่ได้คุณภาพมาตรฐาน ส่งผลสุขภาพผู้สูบบุหรี่เพิ่มขึ้นได้ จากปัจจุบันก็มีผลต่อสุขภาพอยู่แล้ว”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับอัตราภาษีบุหรี่ที่จัดเก็บในปัจจุบันเป็น 2 อัตรา คือ แบบซองและแบบม้วน ดังนี้  

  • บุหรี่ราคาตั้งแต่ซองละ 72 บาทขึ้นไป จัดเก็บภาษีอัตรา 42% 
  • บุหรี่ราคาซองละต่ำกว่า 72 บาท เก็บภาษีอัตรา 25%  

ส่วนการจัดเก็บรายได้  10 เดือนปีงบประมาณ2566 จัดเก็บภาษีได้ 49,748 ล้านบาท ทั้งนี้ การจัดเก็บภาษียาสูบลดลงอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปีงบประมาณ 2564  จัดเก็บได้  64,000 ล้านบาท ปี2565 จัดเก็บได้ 59,784 ล้านบาท