ไขข้อสงสัยรัฐบาลแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ปักหมุดใช้จ่าย 4 กิโลเมตร

12 ก.ย. 2566 | 05:53 น.
อัพเดตล่าสุด :12 ก.ย. 2566 | 06:41 น.

ไขข้อสงสัยทำไมรัฐบาลเศรษฐา 1 ปักธงให้รัฐวิสาหกิจกู้เงิน 560,000 ล้าน แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ตั้งแต่อายุ 16 ปีขึ้นไป พร้อมปักหมุดใช้จ่ายเงินดิจิทัลวอลเล็ตรัศมีจำนวน 4 กิโลเมตร

พลันที่ พรรคเพื่อไทย ปักหมุดแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท โดยจำกัดการใช้เงินรัศมี 4 กิโลเมตร กลายเป็นคำถามว่าจะแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ทั้งที ทำไมต้องจำกัดพื้นที่การใช้จ่าย ทั้ง ๆ ที่เป็นภาษีของประชาชน ไม่เพียงเท่านี้พบว่าประชาชนหลายคนกำลังจะเตรียมย้ายสำมะโนครัวกันเลยทีเดียว

หลากหลายแหล่งเงินทุน

สำหรับการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท สำหรับงบประมาณ หรือ แหล่งเงินทุนที่จะนำมาใช้นั้นมีหลายส่วน แต่ยืนยันว่าจะไม่มีการออก  พ.ร.ก.กู้เงินในส่วนของ พ.ร.บ.วินัยทงการเงินการคลัง ด้วยกู้เงินจากธนาคารรัฐมาตรา 28  มีอยู่หลายส่วนอาจนำมาใช้ได้ เมื่อหลายโครงการตั้งเบิกแล้วไม่ได้ใช้ตามกำหนด อาจต้องนำจากส่วนดังกล่าวมาใช้ในโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต โดยใช้งบทั้งสิ้น 5.6 แสนล้านบาท

 

อัปเดตเงื่อนไขแจกเงินดิจิทัล 10000 บาท

  • ใช้จ่ายใกล้บ้าน 4 กิโลเมตร “ใช้จ่ายใกล้บ้านด้วยกระเป๋าเงินดิจิทัล (Digital Wallet)” 
  • คนไทยทุกคนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป
  • อายุการใช้งาน 6 เดือนสำหรับจับจ่ายใช้สอยสินค้าที่จำเป็นไม่เกี่ยวข้องกับอบายมุขโดยเฉพาะ ยาเสพติดและการพนัน และไม่สามารถซื้อของบนแพลตฟอร์มออนไลน์ได้
  • ใช้จ่ายได้ เฉพาะกับร้านค้าชุมชนที่ “อยู่ในรัศมี 4 กิโลเมตร” 
  • ร้านค้าสามารถนำเงินดิจิทัลมาแลกเป็นเงินบาทได้กับธนาคารในโครงการในภายหลัง
  • เป็นการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับเศรษฐกิจดิจิทัล ในระยะยาวเพื่อนำประเทศเข้าสู่การเป็นศูนย์กลางของ FinTech
  • กระเป๋าเงินดิจิทัล ใช้ระบบ Blockchain
  • เงื่อนไขการจำกัดการใช้จ่ายแจกเงินดิจิทัล 10000 บาท

แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท

“ก้าวไกล” ไม่เห็นด้วยแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท

ขณะที่นายชัยวัฒน์ สถาวรวิจิตร สส.เชียงใหม่ เขต 3 (สันกำแพง แม่ออน ดอยสะเก็ด) พรรคก้าวไกล ได้อภิปรายกรณีที่ พรรคก้าวไกล มีนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ว่านโยบายนี้ไม่เหมาะสมในสภาวะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน เป็นการแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่ไม่ถูกจุด และจะไม่เกิดพายุหมุนทางเศรษฐกิจตามที่รัฐบาลคาดไว้ แต่เป็นลมแผ่วๆที่จะได้รับนั้นไม่คุ้มค่ากับเงินงบประมาณและโอกาสที่ต้องเสียไป ทั้งยังสร้างปัญหาและภาระด้านงบประมาณทิ้งไว้ให้ลูกหลานรุ่นต่อไป อีกทั้งปัญหาการใช้งานและการกำหนดเงื่อนไขที่ไม่ได้คิดอย่างถี่ถ้วนรอบคอบ รวมทั้งปัญหาทางเทคนิคที่จะเกิดขึ้นหากยังดื้อดึงที่จะใช้ blockchain

"ผมขอเสนอแนะให้ทบทวนรายละเอียดต่างๆ โดยแยก เรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการอัดฉีดเม็ดเงิน กับเรื่องการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลออกจากกัน เพราะนโยบายแจกเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต นี้ฟังดูแล้วยังมีแต่ข้อมูลที่เลื่อนลอย ไม่มีคำตอบที่เป็นตรรกะที่สมเหตุสมผล หากยังไม่สามารถชี้แจงรายละเอียดและตอบคำถามเหล่านี้แก่ประชาชนได้ ก็อย่าเพิ่งเดินหน้าจนกว่าจะให้ความกระจ่างกับประชาชนได้เสียก่อน เพราะหากดึงดันที่จะทำผู้ที่เสียประโยชน์โดยแท้จริงก็คือประชาชนคนไทยทั้งประเทศ"

เป้าหมายให้คนกลับกระตุ้นเศรษฐกิจภูมิภาค

ขณะที่นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า  เป้าเหมายแจกเงินดิจิทัล เพื่อให้คนที่ทำงานต่างจังหวัดกลับบ้านและใช้เงินดิจิทัล 10000 บาทซื้อสินค้าและใช้จ่ายภายในพื้นที่ๆ ที่อยู่ในสำมะโนครัวเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ซึ่งสอดคล้องกับ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เปิดเผยถึงการใช้เงินดิจิทัล จำนวน 10000  บาท ที่กำหนดรัศมีการใช้จ่าย 4 กิโลเมตร เนื่องจากรัฐบาลต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจภูมิภาค ถ้าเกิดคนที่มีถิ่นฐานอยู่ที่จังหวัดใดก็ควรกลับไปใช้ที่นั่น มีเวลา 6 เดือน กลับไปเยี่ยมญาติพี่น้องทำให้สถาบันครอบครัวแข็งแกร่งขึ้น

สรุป: แจกเงินดิจิทัล 10000 บาท คาดจะเริ่มโคงการได้ภายในไตรมาสแรกปี 2567.