ศุลกากรส่งหมูเถื่อนไปทำลาย 161 ตู้ สั่งเข้มตรวจลักลอบทำผิด

29 ก.ย. 2566 | 07:06 น.
อัปเดตล่าสุด :29 ก.ย. 2566 | 07:06 น.

ศุลกากรส่งมอบหมูเถื่อนไปทำลาย 161 ตู้ สั่งเข้มตรวจลักลอบทำผิด พร้อมเพิ่มความเข้มงวดตรวจปล่อยสินค้า ระบุ DSI รับผิดชอบควบคุมเคลื่อนย้ายตู้สินค้าไปทำลายตามที่กรมปศุสัตว์เตรียมไว้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร พร้อมคณะให้การต้อนรับ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อทำพิธีส่งมอบตู้สินค้าประเภทซากสุกรของกลางลักลอบนำเข้า 161 ตู้ คดีพิเศษ ที่ 59/2566 ไปทำลาย ร่วมด้วยผู้แทนจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ สมาคมผู้ประกอบการท่าเทียบเรือสินค้าและคอนเทนเนอร์และผู้ประกอบการสายเดินเรือ ณ ศูนย์เอกซเรย์และเทคโนโลยีศุลกากร สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี

นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า กรมศุลกากรส่งมอบตู้สินค้าประเภทซากสุกรของตกค้างและของกลาง จำนวน 161 ตู้ ให้กรมปศุสัตว์ เพื่อนำไปดำเนินการทำลายตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป และกรมศุลกากรจะเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจปล่อยตู้สินค้า ทั้งตู้สินค้าชนิดทั่วไปและตู้สินค้าควบคุมอุณหภูมิ (Reefer Container)

โดยหากเป็นตู้สินค้าที่เป็นของควบคุมการนำเข้าตามพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 จะมีการตรวจร่วมกับเจ้าหน้าที่จากด่านกักกันสัตว์ กรมปศุสัตว์ในทุกกรณี รวมถึงได้กำชับพนักงานศุลกากรให้ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ระเบียบ และข้อบังคับที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วน

ทั้งนี้ หากตรวจพบความผิดเกี่ยวกับสินค้าประเภทสุกรหรือเนื้อสัตว์ต่าง ๆ ให้พนักงานศุลกากรดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดและร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน โดยไม่ยินยอมให้ทำความตกลงระงับคดีในชั้นศุลกากร และกรมศุลกากรพร้อมอำนวยความสะดวกและสนับสนุนพนักงานสอบสวน และบูรณาการตรวจสอบการลักลอบหรือหลีกเลี่ยงการนำเข้าเนื้อสุกรโดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมปศุสัตว์กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและเพื่อความปลอดภัยของประชาชน

ศุลกากรส่งหมูเถื่อนไปทำลาย 161 ตู้ สั่งเข้มตรวจลักลอบทำผิด

สำหรับการดำเนินการดังกล่าว สืบเนื่องมาจากกรมศุลกากรได้ทำการสำรวจของค้างบัญชีเรือที่อยู่ในอารักขาของศุลกากรเกินกำหนดเวลา 30 วัน โดยไม่มีใบขนสินค้าอันได้รับรอง และไม่ได้เสียอากรหรือวางเงินประกันค่าอากรที่พึงเรียกเก็บแก่ของนั้น รวมถึงไม่มีผู้ใดมาแสดงความเป็นเจ้าของ จึงได้ทำการเปิดสำรวจและพบว่าเป็นสินค้าประเภทสุกรแช่แข็ง จำนวน 161 ตู้ ซึ่งต้องได้รับอนุญาตในการนำเข้าจากกรมปศุสัตว์

ต่อมากรมศุลกากรดำเนินการจัดทำหนังสือถึงกรมปศุสัตว์แจ้งการส่งมอบซากสุกรแช่แข็ง จำนวน 161 ตู้ เพื่อให้กรมปศุสัตว์ดำเนินการทำลายตามพระราชบัญญัติ  โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 ระเบียบกรมปศุสัตว์ว่าด้วยการทำลายหรือจัดการโดยวิธีอื่นซึ่งสัตว์หรือซากสัตว์ที่ถูกยึดหรืออายัดไว้ กรณีนำเข้าหรือนำผ่านราชอาณาจักร พ.ศ. 2559 และข้อตกลงระหว่างกรมปศุสัตว์กับกรมศุลกากร เรื่อง การปฏิบัติเกี่ยวกับกรณีที่มีการจับกุมดำเนินคดีลักลอบนำสัตว์หรือซากสัตว์เข้ามาในราชอาณาจักร

นอกจากนี้ ในการดำเนินคดีอาญา กรมศุลกากรได้ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ขอให้สืบสวนดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด ในความผิดฐานนำเข้าซึ่งสัตว์หรือซากสัตว์ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมปศุสัตว์ ตามพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 และพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560

ต่อมา DSI รับกรณีขบวนการนำเข้าสินค้าประเภทซากสัตว์ (สุกร) เข้ามาในราชอาณาจักร เป็นคดีพิเศษ ที่ 59/2566 ซึ่งกรมศุลกากร กรมปศุสัตว์และ DSI ร่วมกันเปิดสำรวจตู้สินค้าตกค้างทั้งหมด 161 ตู้ แล้วเสร็จ และมีความเห็นร่วมกันในการนำของกลางสินค้าประเภทสุกรแช่แข็งทั้ง 161 ตู้ ไปทำลายตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดย DSI รับผิดชอบควบคุมการเคลื่อนย้ายตู้สินค้าไปทำลายตามสถานที่ที่กรมปศุสัตว์ได้จัดเตรียมไว้