แจกเงินดิจทัล 10000 รัฐบาลเดินหน้าผลักดันโครงการตามลำดับหลังจาก คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการเติมเงิน 10000 นัดประชุมนัดแรกไปแล้วเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมาคาดว่าจะสรุปโครงการภายใน 2 สัปดาห์ถัดจากนี้
เมื่อวานนี้ (14 ต.ค. 66 ) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ X ว่า ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 มีเงินเข้ามาในระบบ 560,000 ล้านบาท ถ้าท่านเป็นภาคอุตสาหกรรมท่านจะผลิตสินค้ามารองรับไหม จะต้องซื้อวัสดุเพื่อมาผลิตสินค้าเตรียมขายหรือไม่ จะมีการจ้างคนเพิ่มไหม แล้วเงินจะเข้ามาอยู่ในกระเป๋าของพี่น้องประชาชนเท่าไหร่ เราตั้งใจให้เงินถูกเอาไปใช้ในพื้นที่ตามบัตรประชาชนของทุกคน เพื่อช่วยพัฒนาชุมชนที่ท่านอยู่ ไม่ใช่พัฒนาเมืองใหญ่อย่างเดียว
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธาน คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการเติมเงิน 10000 ประชุมนัดแรก เพื่อพิจารณาถึงแหล่งเงินที่จะนำมาใช้ดำเนินโครงการ และหลักเกณฑ์รัศมีการใช้จ่ายเงินในโครงการ
อย่างไรก็ตาม คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการเติมเงิน 10000 นัดประชุมในรอบที่ 2 วันที่ 19 ตุลาคม 2566 ถัดจากนั้นจะนำมาเสนอต่อคณะกรรมการชุดใหญ่ คาดจะได้ข้อสรุปโดยเร็วภายใน 2 สัปดาห์นี้
แจกเงินดิจิทัล 10000 งบประมาณใช้ไม่ถึง 5.6 แสนล้านบาท
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า โครงการแจกเงินดิจิทัล 10000 วงเงินที่จะนำมาใช้นั้น จะไม่ถึง 5.6 แสนล้านบาท เพราะประชาชนที่มีอายุเกิน 16 ปี มีแค่ 5.48 ล้านคน ดังนั้น จะมีกรอบวงเงินเต็มที่แค่ 5.48 แสนล้านบาท ยังไม่นับรวมเงื่อนไขที่ดูความจำเป็นของกลุ่มคนและคนที่ไม่มาร่วมโครงการอีกด้วย
นายจุลพันธ์ ยังกล่าวเพิ่มเติมถึงเงื่อนไขในการสมัครร่วมโครงการแจกเงินดิจิทัล 10000 ยืนยันไม่ต้องลงทะเบียน แต่ต้องยืนยันตัวตนด้วยระบบ KYC จากนั้น กดรับสิทธิ์ จะได้เข้าร่วมโครงการอย่างแน่นอน ซึ่งขณะนี้ สำหรับผู้ที่เคยร่วมโครงการรัฐที่ผ่านมา 40 ล้านคนที่ได้ยืนยันตัวตัวผ่านระบบ KYC ไปแล้วก็ไม่ต้องมายืนยันตัวตน ดังนั้น จึงเหลือเพียง 10 ล้านคนเท่านั้น ที่จะต้องมายืนยันตัวตน
สำหรับแนวทางในการหางบประมาณเพื่อสนับสนุนโครงการแจกเงินดิจิทัล 10000 มีด้วยกัน 3 แนวงทางดังนี้