(19 ต.ค. 66) ที่กระทรวงการคลัง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การประชุมคณะอนุกรรมการโครงการ แจกเงินดิจิทัล 10000 บาท ในวันนี้ได้เลื่อนออกไปจากเดิมที่จะมีการประชุมในเวลา 16.00น.
เนื่องจากเมื่อวานฝ่ายเลขาฯ มีการประชุมในหลายหน่วย และยังมีบางเรื่องที่ยังไม่ได้ข้อสรุปชัดเจนในบางส่วน รวมทั้งกระบวนการการดำเนินโครงการเป็นไปอย่างรวดเร็วทำให้มีงานเป็นจำนวนมากที่จะต้องดำเนินการ ทำให้วันนี้ยังไม่มีความพร้อมจึงเลื่อนการประชุมออกไปก่อน โดยจะมีการนัดประชุมใหม่ ในวันอังคารที่ 24 ตุลาคมนี้
"ชุดใหญ่มีข่าวออกไปว่าการประชุมชุดใหญ่นัดวันอังคาร ผมเช็คทุกฝ่ายแล้วไม่มีใครบอกไม่มีการประชุม ไม่เคยมีการนัดประชุมวันอังคารผมยังงง ไปเอาข่าวมาจากไหน เพราะเรายังไม่ทำการบ้านส่งเลยแล้วจะประชุมอะไรกัน อันนั้นเป็นข่าวไม่รู้ไปเอามาจากไหนเหมือนกัน" นายจุลพันธ์ กล่าว
นอกจากนี้ นายจุลพันธ์ ยืนยันว่า กระบวนการ KYC ยังมีความจำเป็น เนื่องจากเป็นกระบวนการในการพิสูจน์ตัวตน อันนี้ต้องมี การยืนยัน KYC เพราะเป็นไปตามระเบียบและกฎหมายของ ธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่ผ่านมาประชาชนราว 40 ล้านคน ซึ่งเคยผ่านกระบวนการยืนยันตัวตนนี้ ผ่านทางนโยบายรัฐอื่นๆ ที่ผ่านมา โดยฐานข้อมูลเดิมยังใช้ได้ แต่อีกราว 10 กว่าล้านคน ที่ยังไม่ผ่าน KYC จะต้องเข้ามายืนยันตัวตน เพื่อแจ้งความต้องการในการใช้สิทธิร่วมโครงการ
ส่วนการจัดทำ ซุปเปอร์แอป จะทยอยพัฒนาเป็นระยะ เบื้องต้นเริ่มโอนเงินได้ประมาณไตรมาสแรกปี 2567 การใช้เงินจะไม่ยุ่งยากสำหรับประชาชน ด้วยการใช้สมาร์ทโฟน แสกน QR- Code เพื่อซื้อสินค้าเหมือนที่ผ่านมา เพื่อให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบ ในช่วงเศรษฐกิจไทยชะลอตัว และเงินงบประมาณปี 67 ออกสู่ระบบล่าช้า กระทรวงคลังยืนยันจะไม่มีระบบการลงทะเบียน แต่จะใช้การกดรับสิทธิ์เข้าร่วมโครงการเหมือนเคยดำเนินมาตรการรัฐช่วงที่ผ่านมา ง
รวมทั้งทางกระทรวงคลัง ยังร่วมมือกับหน่วยงานความมั่นคง ป้องกันการใช้เงินผิดเงื่อนไข ไม่เป็นไปตามข้อกำหนดทั้งซื้อสุรา หรือข้อห้ามต่างๆ รวมถึงการยอมโอนเงินดิจิทัลให้ร้านค้า เพื่อรับเงิน 8,000 บาท ยืนยันระบบบล็อกเชนปลอดภัย ตามเช็คการรับโอน การใช้เงินได้อย่างละเอียด
ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประเด็นการหารือของคณะอนุกรรมการโครงการ แจกเงินดิจิทัล 10000 บาท จะเป็นการประชุมติดตามความคืบหน้า ทั้งเรื่องของผลการศึกษาโครงการ ทั้งในเรื่องของผลการศึกษากลุ่มเป้าหมายที่จะรับเงินดิจิทัล และการขยายพื้นที่ในการใช้จ่ายเงินดิจิทัล
ตลอดจนการพัฒนาระบบแพลตฟอร์มรองรับธุรกรรมเงินดิจิทัลภาครัฐ หรือ ซุปเปอร์แอป ซึ่งมีสมาคมสถาบันการเงินของรัฐที่โดยมี นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการออมสิน เป็นประธานดำเนินการเรื่องดังกล่าว
รวมทั้งที่ประชุมอาจมีความจำเป็นต้องหารือในเรื่องของการแก้ไขกฎหมาย เพื่อรองรับนโยบายดังกล่าว รวมทั้งข้อจำกัดทางเทคนิคของผู้พัฒนา ซุปเปอร์แอป ที่อาจต้องใช้เวลาพัฒนา และทดสอบระบบ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าซุปเปอร์แอป จะสามารถรองรับปริมาณธุรกรรมจำนวนมาก บนความเสถียร และปลอดภัย
นอกจากนี้ในส่วนของการพัฒนาเทคโนโลยี บล็อกเชน รวมถึงการพัฒนาระบบ อาจต้องใช้เวลาทดสอบโดยเฉพาะด้านเสถียรภาพ และความปลอดภัย ที่อาจใช้ระยะเวลาไม่น้อยกว่า 10 เดือน ซึ่งถือเป็นระยะเวลาทดสอบระบบที่น้อยที่สุด
อย่างไรก็ตามในโครงการ แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10000 บาท ทางรัฐบาลตั้งเป้าดำเนินโครงการให้ทันภายในเดือน ก.พ. 2567 แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีแนวทางดำเนินการที่ชัดเจน ว่าจะมีข้อสรุปอย่างไร แต่นายจุลพันธ์ ยืนยันจะต้องดำเนินการให้ทันภายในไตรมาสแรกของปี 2567