นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้ปรับประมาณการการขยายตัวเศรษฐกิจในปี 2566 คาดว่าจะขยายตัวได้ที่ 2.7% ลดลงจากช่วงเดือนก.ค.66 คาดการณ์ว่าจะขยายตัวได้ 3.5%
โดยมีปัจจัยมาจากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว การเข้ามาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งคาดว่าจะลดลงมาเหลือ 27.7 ล้านคน จากเดิมประมาณการว่านักท่องเที่ยวต่างชาติจะเข้ามากว่า 29.5 ล้านคน ซึ่งเป็นผลมาจากนักท่องเที่ยวจีนยังไม่กลับมาตามคาด เนื่องจากมีปัจจัยเรื่องเศรษฐกิจของจีน และข้อจำกัดการเดินทาง เป็นต้น
“การประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจไทยในปี 66 สอดคล้องกับหน่วยงานระดับสากล และหน่วยงานเศรษฐกิจในประเทศ โดย IMF คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะขยายตัวได้ 2.7% ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็มองว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัวได้ที่ 2.8% ซึ่งก็มองอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน”
อย่างไรก็ตาม การปรับประมาณการดังกล่าว ยังเป็นการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่เติบโตต่อเนื่องจากปี 65 โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติก็ยังเป็นปัจจัยในการสนับสนุน คาดมีรายได้จากนักท่องเที่ยวรวมกว่า 1.18 ล้านล้านบาท ซึ่งมีนักท่องเที่ยวจากมาเลเซีย เกาหลี และอินเดีย ที่ยังเดินทางเข้ามา
นอกจากนี้ ยังมีการบริโภคภาคเอกชน ที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง คาดว่าในปีนี้ จะขยายตัวได้ 5.8% ขณะที่การส่งออกสินค้าในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ คาดว่าจะหดตัวที่ -1.8% ส่วนอัตราเงินเฟ้อ คาดว่าอยู่ที่ 1.5% ซึ่งยังอยู่ในกรอบที่กำหนดไว้
ขณะที่ปี 67 นั้น ประมาณการเศรษฐกิจไทยคาดว่าจะขยายตัวได้ 3.2% โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ 2.2-4.2% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชน ที่คาดว่าจะขยายตัวได้ 3.1% ขณะที่การส่งออกคาดว่าจะขยายตัวได้ 4.4% ซึ่งจะส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ และคาดว่าการท่องเที่ยวจะมีต่างชาติเข้ามา 34.5 ล้านคน
ทั้งนี้ ประมาณการดังกล่าวยังไม่รวมโครงการต่างๆ ของรัฐที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งตัวเลขประมาณการในปี 67 เป็นการขยายตัวตามกลไกปกติ ซึ่งหากนโยบายของรัฐชัดเจนจะต้องมีการทบทวนอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยซึ่งต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ได้แก่