วันนี้ (30 ตุลาคม 2566) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยกระทรวงพาณิชย์ เตรียมเสนอที่ประชุมครม. พิจารณามาตรการดูแลราคา “น้ำตาลทราย” ทั้งการขึ้นบัญชีสินค้าควบคุม เพิ่มเติมอีก 1 รายการ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 และกระทรวงอุตสาหกรรม เสนอการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย
กรณีแรก กระทรวงพาณิชย์ จะเสนอให้ที่ประชุมครม. เห็นชอบตามมติคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ซึ่งมีมติเห็นชอบกำหนดให้สินค้า “น้ำตาลทราย” เป็นสินค้าควบคุมตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 โดยหลังจากผ่านการเห็นชอบจากครม. แล้ว จะลงประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา เพื่อมีผลบังคับใช้ทันที
ทั้งนี้มาตรการกำกับดูแลราคาน้ำตาลทรายในประเทศ ตามมติคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) แบ่งเป็น 2 ส่วน ดังนี้
1.ควบคุมราคาน้ำตาลทราย
กำหนดราคาน้ำตาลทรายหน้าโรงงาน อยู่ที่
กำหนดราคาจำหน่ายปลีกในเขตกรุงเทพมฯ และปริมณฑล อยู่ที่
2.การกำหนดแนวทางควบคุมการส่งออก
โดยกำหนดการส่งออกน้ไตาลทรายตั้งแต่ 1,000 กิโลกรัม ขึ้นไป ต้องขออนุญาตจากคณะอนุกรรมการที่จะจัดตั้งขึ้น ซึ่งมีเลขาธิการ สอน. เป็นประธาน ทำหน้าที่กำหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการในการกำกับดูแล เพื่อป้องกันลักลอบการส่งออก ให้น้ำตาลทรายไม่ขาดแคลน และไม่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกน้ำตาลทรายของไทยด้วย
ก่อนหน้านี้ ครม. เห็นชอบประกาศ กกร. เรื่อง การกำหนดสินค้าและบริการควบคุม ปี 2566 จำนวน 51 รายการ โดยให้คงสินค้าและบริการควบคุม ปี 2566 เช่นเดียว กับปี 2565 เพราะเป็นสินค้าและบริการควบคุมที่มีความจำเป็นต่อชีวิตประจำวันของประชาชน เช่น ก๊าซปิโตรเลียมเหลว น้ำมันเชื้อเพลิง ปุ๋ย ข้าวเปลือก ข้าวสาร ไข่ไก่ เนื้อสุกร เครื่องแบบนักเรียน แชมพู ผงซักฟอก น้ำยาซักฟอก และผลิตภัณฑ์ล้างจาน เป็นต้น
กรณีต่อมา กระทรวงอุตสาหกรรม เตรียมเสนอของบกลาง วงเงิน 5,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยที่อาจได้รับผลกระทบจากราคาน้ำตาลทรายที่ปรับเพิ่มขึ้น โดยล่าสุด กระทรวงพาณิชย์ ได้หารือกับกระทรวงอุตสาหกรรม จนได้ข้อสรุปร่วมกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สำหรับการเข้ามาควบคุมราคาน้ำตาลทรายในประเทศครั้งนี้ เป็นผลมาจาก สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) ได้ประกาศปรับขึ้นราคาน้ำตาลทรายหน้าโรงงานใหม่ เพิ่มขึ้น กก.ละ 4 บาท โดยน้ำตาลทรายขาวจากเดิมกก.ละ 19 บาท เป็น 23 บาท น้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์จากเดิมกก.ละ 20 บาท เป็น 24 บาท
ส่งผลให้ราคาจำหน่ายปลีกน้ำตาลทรายขาว เพิ่มจากกก.ละ 23 บาท เป็นกก.ละ 28 บาท และน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ จากกก.ละ 24 บาท เป็นกก.ละ 29 บาท ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ สอน. ระบุเหตุผลว่า ถึงประเด็นที่ราคาน้ำตาลทรายหน้าโรงงานที่เพิ่มขึ้น กก.ละ 4 บาท มีความจำเป็นต่ออุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย เพราะต้องให้ราคาตกถึงเกษตรกรชาวไร่ หลังจากที่ตลาดโลกปรับสูงขึ้นมาก ทำให้ราคาหน้าโรงงานเพิ่มขึ้นมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ราคาส่วนที่เพิ่มไม่ได้ตกกับชาวไร่ เป็นโรงงานได้ทั้งหมด
รวมถึงผลจากราคาที่เพิ่มขึ้นยังจูงใจให้โรงงานส่งออก และมีกองทัพมดลักลอบส่งออกประเทศเพื่อนบ้าน สอน.จึงต้องดูแลราคาให้เหมาะสมกับกลไก และราคาที่เพิ่มขึ้นนี้จะใช้สำหรับการคำนวณราคาอ้อยฤดูการผลิตใหม่ คือ ปี 2566/67 ด้วย