วันนี้ (10 พฤศจิกายน 2566) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เตรียมการประชุมคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) นัดแรก โดยรองนายกฯ บอกก่อนหน้านี้ว่า การประชุม ก.พ. วันนี้ ยังไม่ได้มีการหารือถึงการปรับ ขึ้นเงินเดือนข้าราชการ โดยเป็นการหารือเพียงแค่วาระทั่วไปเท่านั้น
ส่วนการประชุมเพื่อสรุปการปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ ตามนโยบายของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นั้น ในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 นี้ จะนัดประชุมเป็นครั้งแรก
โดยมีผู้ที่เกี่ยวข้องทั้ง สำนักงาน ก.พ. กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เข้ามาร่วมหารือในรายละเอียดทั้งหมด ซึ่งเริ่มประชุมในช่วงเวลาประมาณ 12.00 น.
“การประชุมวันพรุ่งนี้เป็นนัดแรกอาจจะไม่ได้ข้อสรุปในครั้งนี้ และน่าจะหารือกันอีกรอบ โดยจะขอฟังรายละเอียดก่อน แต่จะทำให้ทันตามกรอบเวลาที่กำหนดไว้” นายปานปรีย์ ระบุ
นายปิยวัฒน์ ศิวรักษ์ เลขาธิการ ก.พ. กล่าวว่า การหารือเรื่องการขึ้นเงินเดือนข้าราชการ นัดแรกวันพรุ่งนี้ น่าจะได้ข้อมูลที่ชัดเจนมากขึ้น โดยสำนักงาน ก.พ. จะแจ้งถึงรายละเอียดในการประชุมต่อไป
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล ระบุว่า การปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ ครั้งนี้วงในรัฐบาลได้หารือกันว่าอาจปรับเพิ่มขึ้นทุกคนไม่เท่ากันแน่นอน โดยจะเน้นกลุ่มข้าราชการชั้นผู้น้อย อาจได้รับการปรับเพิ่มขึ้นสูงกว่ากลุ่มอื่น แต่ทั้งหมดนั้นคงต้องมีการหารือกันอีกครั้งว่าเพื่อให้ได้ข้อสรุป เพราะการปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการจะมีภาระต่องบประมาณมาก โดยถ้าขึ้นทั้งระบบอาจต้องใช้งบประมาณสูงถึงแสนล้านบาท
สำหรับกรณีการปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการนั้น เป็นผลมาจากสั่งการนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปศึกษาความเหมาะสมในการปรับอัตราค่าแรงขั้นต่ำและการปรับอัตราเงินเดือนสำหรับกลุ่มข้าราชการพลเรือนและเจ้าหน้าที่ของรัฐ
ทั้งนี้ได้ระบุว่า ตามที่ รัฐบาลได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาไว้ว่า รัฐบาลมีนโยบายในการสร้างรายได้ สร้างชีวิตของคนไทยให้มีเกียรติ มีเงินเดือนและค่าแรงขั้นต่ำที่เป็นธรรมสอดคล้องและเพียงพอต่อปัจจัยด้านการดำรงชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรี นั้น จึงขอมอบหมาย ดังนี้
1. ให้กระทรวงแรงงาน เร่งรัดการศึกษาความเหมาะสมและเป็นไปได้ในการปรับอัตราค่าแรงขั้นต่ำ และรายงานผลให้คณะรัฐมนตรีทราบโดยเร็ว
2. ให้นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการข้าราชการพลเรือน รับไปเร่งรัดให้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนร่วมกับกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาความเหมาะสม และเป็นไปได้ แนวทาง กรอบระยะเวลา และผลกระทบของการปรับอัตราเงินเดือนสำหรับกลุ่มข้าราชการพลเรือน และเจ้าหน้าที่ของรัฐให้ชัดเจน
ทั้งนี้ให้รายงานผลต่อคณะรัฐมนตรีทราบโดยเร็วภายในเดือนพฤศจิกายน 2566