10 สมาคมฯ ชงนายกฯปลดล็อกสถานบันเทิง ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ถึงตี 2

14 พ.ย. 2566 | 06:07 น.
อัปเดตล่าสุด :14 พ.ย. 2566 | 06:47 น.

10 สมาคมภาคท่องเที่ยว และกลุ่มผู้ประกอบการสถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ ยื่นข้อเสนอนายกฯ “เศรษฐา” ปลดล็อกธุรกิจกลางคืน ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลังเที่ยงคืน จัดโซนนิ่ง 9 จังหวัด รับนักท่องเที่ยวดันเป็น Soft Power

วันนี้ (14 พฤศจิกายน 2566) ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล 1111 สำนักงาน ก.พ.เดิม กลุ่มผู้ประกอบการสถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ จำนวน 8 คน นำโดย นายสง่า เรืองวัฒนกุล นายกสมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย และนางสาวเขมิกา รัตนกุล นายกสมาคมธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไทย ร่วมกันยื่นหนังสือถึง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

เพื่อขอให้รับข้อเสนอเพื่อส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทยให้เติบโตครอบคลุมในทุกมิติอย่างสมดุลและยั่งยืน โดยเฉพาะเรื่องของการส่งเสริมการท่องเที่ยวยามค่ำคืน โดยมีนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมืองเป็นผู้รับหนังสือ

สำหรับข้อเสนอของผู้ประกอบการทั้งหมดนั้น ได้รับรวบรวมมาจากเอกชนจาก 10 สมาคม ทั้ง สมาคมผู้ประกอบการร้านอาหาร สมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร สมาคมบาร์เทนเดอร์ไทย สมาคมธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไทย สมาคมธุรกิจร้านอาหารกลางคืน สมาคมการท่องเที่ยวเขาใหญ่ สมาคมการค้าธุรกิจร้านอาหาร สมาคมอุตสาหกรรมบันเทิงและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา สมาคมสุราท้องถิ่นไทย สมาคมโรงแรมไทย 

รวมทั้งสมาพันธ์เครือข่ายคนบันเทิงอาชีพแห่งประเทศไทย ชมรมสถานบันเทิงหาดป่าทอง กลุ่มผู้ประกอบการสถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ ไร่องุ่นซูนแวลลีย์ ละมอนซูนแวลลีย์ ไวน์บาร์ โดยระบุรายละเอียดข้อเสนอรวม 3 ข้อหลัก ดังนี้

 

10 สมาคมฯ ชงนายกฯปลดล็อกสถานบันเทิง ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ถึงตี 2

1. พิจารณาปรับปรุง ยกเลิกมาตรการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ล้าสมัย หรือเป็นอุปสรรคต่อการประกอบการหรือสร้างภาระเดือดร้อนแก่ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวและบริการ ไม่ได้สัดส่วนกับผลกระทบทางเศรษฐกิจ ลดทอนบรรยากาศและภาพลักษณ์ที่ดีด้านการท่องเที่ยว รวมถึงกระทบสิทธิของนักท่องเที่ยวและผู้บริโภค 

ทั้งนี้ เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพการณ์ปัจจุบัน ยกระดับประสิทธิผลของมาตรการให้สามารถสนับสนุนการขับเคลื่อนเป้าหมายด้านการท่องเที่ยวและยุทธศาสตร์ Soft Power ของภาครัฐ ดังข้อเสนอแนะของสำนักงาน ป.ย.ป. และสำนักงานคณะกรรมกฤษฎีกา ประกอบด้วย

1. พิจารณาปรับปรุงกำหนดเวลาห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลัง 24.00 น. และอนุญาตให้ร้านอาหารและเครื่องดื่ม สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ สามารถขายและให้บริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ถึงเวลา 2.00 น.

2. พิจารณายกเลิกการกำหนดเวลาห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระหว่างเวลา 14.00 - 17.00 น.ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดเวลาห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2558

3. พิจารณากำหนดให้การขาย การให้บริการ และการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานนานาชาติสามารถกระทำได้ตลอดเวลา

4. พิจารณายกเลิกการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในบริเวณใกล้เคียงสถานศึกษา หรือหอพักบริเวณใกล้เคียงสถานศึกษา ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 22/2558 และประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดสถานที่หรือบริเวณห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รอบสถานศึกษา พ.ศ. 2558 

เนื่องด้วยมาตรการห้ามขายสุราในเชิงพื้นที่ดังกล่าวมีลักษณะเหมารวมส่งผลกระทบต่อการประกอบธุรกิจโดยตรง เช่น โรงแรมที่พัก ร้านค้าปลีก ร้านอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงห้างสรรพสินค้า สร้างความไม่สะดวกให้แก่นักท่องเที่ยว และประชาชนทั่วไป

5. พิจารณาปรับปรุงมาตรการจำกัดการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้มีความชัดเจน โดยให้การแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้า ราคาสินค้า ภาพสินค้า และเครื่องหมาย ซึ่งเป็นข้อมูลพื้นฐานในการตัดสินใจซื้อ และเป็นข้อเท็จจริง สามารถกระทำได้ ณ สถานที่ขาย เช่น ในบริเวณร้านค้าร้านอาหารและเครื่องดื่ม ในรายการอาหาร สถานบริการ ผับ บาร์ 

เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างการจำกัดการโฆษณาซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันมิให้มีการโฆษณาเกินความจริงหรือเพื่อชักจูงใจให้มีการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากยิ่งขึ้น หรือชักจูงใจเยาวชน ลดอุปสรรคของผู้ประกอบธุรกิจการท่องเที่ยวและบริการ รวมถึงคงไว้ซึ่งสิทธิในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่จำเป็นและพอเพียงต่อการตัดสินใจซื้อหรือบริโภคของลูกค้าและนักท่องเที่ยว

 

10 สมาคมฯ ชงนายกฯปลดล็อกสถานบันเทิง ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ถึงตี 2

 

2.เร่งกำหนดพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวยามค่ำคืน (Special Socialized and Night TourismZone) เพื่อเป็น "Soft Power" ผลักดันให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการสังสรรค์และความบันเทิงยามค่ำคืนและเป็นชาติผู้นำด้านการท่องเที่ยวที่ครบวงจรและปลอดภัยในระดับโลก ได้แก่

1. กรุงเทพมหานคร : ถนนข้าวสาร ถนนสีลม (ซอยพัฒน์พงษ์ และซอยธนิยะ) ถนนรัชดาภิเษก ถนนสุขุมวิท (ซอยสุขุมวิท 11 ชอยคาวบอย ซอยนานา ซอยทองหล่อ และซอยเอกมัย)

2. จังหวัดภูเก็ต : ซอยบางลา

3. เมืองพัทยา

4. จังหวัดสุราษฎร์ธานี : หาดเฉวง เกาะสมุย และหาดริ้น เกาะพะงัน

5. พังงา : เขาหลัก

6. กระบี่ : อ่าวนาง

7. ประจวบคีรีขันธ์ : เมืองหัวหิน

8. จังหวัดสงขลา : เมืองหาดใหญ่ เมืองสะเดา

9. จังหวัดเชียงใหม่ : ถนนนิมมานเหมินทร์

 

10 สมาคมฯ ชงนายกฯปลดล็อกสถานบันเทิง ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ถึงตี 2

 

3. เสริมสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ในการพัฒนาศักยภาพและทักษะแก่บุคคลากรด้านการท่องเที่ยวและบริการ เช่น การสร้างจิตสำนึกการให้บริการอย่างรับผิดชอบ พัฒนาทักษะการบริการและการสื่อสาร ความเข้าใจและเคารพในวัฒนธรรมและความเชื่อที่แตกต่าง ความรู้เรื่องกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการประกอบอาชีพ เป็นต้น เพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการและเพิ่มโอกาสการเติบโตในหน้าที่งาน 

นอกจากนี้ ควรส่งเสริมการให้ความรู้แก่ผู้บริโภคเกี่ยวกับการดื่มอย่างพอประมาณ และการสร้างความตระหนักรู้ต่อผลกระทบจากการดื่มอย่างเป็นอันตราย เพื่อส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคม ของทั้งผู้บริโภค นักท่องเที่ยว และผู้ประกอบการ ซึ่งจะนำไปสู่ความยั่งยืน ด้านการท่องเที่ยวและบริการต่อไป