"เศรษฐา" จี้จุดเอกชน "ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ" ไม่ทำให้ธุรกิจหายนะ

13 ธ.ค. 2566 | 06:57 น.
อัปเดตล่าสุด :13 ธ.ค. 2566 | 07:05 น.

นายกฯ เศรษฐา จี้จุดเอกชนถึงกรณีรัฐบาลไม่เห็นด้วยขึ้นค่าแรงขั้นต่ำนิดเดียว และขอให้กลับไปทบทวน ถึงเวลาแล้วที่ภาคธุรกิจจะคืนความชอบธรรมให้กับประชาชน ระบุขึ้นค่าจ้างคงไม่ทำให้ธุรกิจหายนะ

วันนี้ (13 ธันวาคม 2566) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ร่วมเสวนาหัวข้อคนไทยถาม นายกฯ เศรษฐาตอบ ในงานเดลินิวส์ ทอล์ก 2023 ตอนหนึ่งถึงประเด็น "ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ" ปี 2567 ว่ารัฐบาลไม่เห็นด้วยกับการประกาศอัตราค่าแรงขั้นต่ำที่ได้นำเสนอมา และขอให้กลับไปทบทวน และขอให้อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงว่า อัตราค่าแรงที่กำหนดเหมาะสมหรือไม่

นายกฯ ระบุว่า รัฐบาลภายใต้การนำของตนเองได้พยายามและทำงานอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการลดค่าใช้จ่าย ลดค่าไฟฟ้า รวมไปถึงเดินทางไปต่างประเทศเพื่อเปิดตลาดใหม่ ๆ การเจรจาเรื่องสนธิสัญญาการค้า และเชิญชวนนักลงทุนใหม่ ๆ เข้ามาลงทุนในประเทศไทย ตนเองเชื่อว่าถึงเวลาแล้วที่ภาคธุรกิจจะคืนความชอบธรรมให้กับประชาชนที่เป็นฐานรากของการทำให้เศรษฐกิจให้ดีขึ้น 

"ฝากความหวังกับภาคธุรกิจว่าการขึ้นการค่าแรงไม่ทำให้ธุรกิจหายนะ แต่จะส่งผลต่อมิติบวกมากกว่า ถ้าหากสามารถทำได้ ขอให้พูดคุยกันด้วยวาจาที่รับกันได้ ในจำนวนเงินที่เดินไปข้างหน้าได้ ให้สมศักดิ์ศรี" นายกฯ ระบุ

ส่วนอัตราเงินเดือนขั้นต่ำเงินของผู้จบปริญญาตรี 25,000 บาท เริ่มเมื่อไหร่ และมีโอกาสเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน นายกรัฐมนตรี คาดหวังว่า ภายใน 4 ปี จะสามารถขึ้นเงินเดือนขั้นต่ำปริญญาตรีให้ถึง 25,000 บาทให้ได้ ซึ่งนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ประกาศไปแล้วว่า จะมีการขึ้นเงินเดือนอย่างไร ถือว่าจะเป็นมาตรฐานที่ดี ทำให้ภาคเอกชนนำไปปฏิบัติเพื่อขึ้นค่าแรงให้คนไทยมีรายได้ที่เหมาะสมมีศักดิ์ศรีในการทำงาน 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในงานครั้งนี้มีตัวแทนของภาคเอกชนเข้าร่วมงานด้วยหลายราย และเป็นนายจ้างในสาขาเศรษฐกิจสำคัญทั้งนายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) และนายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.)