นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้ส่งหนังสือถามความเห็นเรื่องการออกพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กู้เงิน 5 แสนล้านบาท สำหรับดำเนินโครงการเติมเงินดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท ให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความแล้ว ตั้งแต่วันที่ 8 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้มีการสอบถามความคืบหน้าจากเลขาธิการกฤษฎีกา โดยท่านระบุว่า ขณะนี้อยู่ในชั้นคณะกรรมการกฤษฎีกาที่ 12 แล้ว โดยใช้ระยะเวลาในการประชุมอย่างน้อย 2 ครั้ง
ทั้งนี้ คาดว่าจะใช้ระยะเวลา 2 สัปดาห์ และกระทรวงการคลังจะได้รับคำตอบกลับมาในช่วงต้นปี 67 เชื่อมั่นว่ารัฐบาล จะดำเนินนโยบายเติมเงินดิจิทัล วอลเล็ต ได้อย่างแน่นอน และยืนยันว่า จะสามารถเริ่มใช้จ่ายได้ในเดือนพ.ค.67 ตามกำหนดการเดิม
“คำถามที่เราถามไป คือ ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และดำเนินการได้หรือไม่ หากชอบ เราก็จะดำเนินการในเรื่องพ.ร.บ.กู้เงิน ซึ่งใช้ระยะเวลาไม่นาน จะเป็นการยกร่างสั้นๆ แล้วจะส่งพ.ร.บ.กู้เงินไปตรวจที่กฤษฎีกา และจะทำองค์ประกอบอื่นๆ ให้ครบถ้วน เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) และเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาให้เร็วที่สุด”
ส่วนได้มีการถามกฤษฎีกาถึงการตีความว่าเศรษฐกิจวิกฤตหรือไม่วิกฤตนั้น นายจุลพันธ์ กล่าวว่า กระทรวงการคลัง ไม่ได้สอบถามคณะกรรมการกฤษฎีกา แต่เป็นหน้าที่ของกระทรวงการคลัง และส่วนงานที่เกี่ยวข้องจะต้องวิเคราะห์สถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาตัดสินใจ
“ขณะนี้ทุกคนเห็นตรงกันว่าเศรษฐกิจประเทศไม่ดี ดังนั้น การกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศจึงจำเป็น ส่วนประเด็นข้อกังวลเรื่องหนี้สาธารณะ ผมไม่อยากให้กังวล เพราะหากเศรษฐกิจขยายตัวเพิ่มขึ้น สัดส่วนหนี้สาธารณะก็ต้องจะลดลงด้วย ซึ่งปัจจุบันหนี้สาธารณะอยู่ที่ 62%ของจีดีพี และเมื่อรัฐบาลดำเนินนโยบายแจกเงินดิจิทัล วอลเล็ต จะช่วยดันจีดีพีในช่วง 4 ปี (ปี67-70) เติบโตเฉลี่ย 5% และคาดว่าระดับหนี้สาธารณะจะอยู่ที่ 60%”