นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงได้ผลักดันโครงการสำคัญเร่งด่วนที่สำคัญของ ตามนโยบาย Quick win เพื่อให้เกิดเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ในช่วงระยะเวลา 99 วันที่ผ่านมา พบว่ากระทรวงได้ดำเนินการมาตรการกำหนดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุดไม่เกิน 20 บาท หรือนโยบายค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ที่ได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ใน 2 โครงการ คือ โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน - คลองบางไผ่ และโครงการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ - รังสิต และช่วงบางซื่อ - ตลิ่งชัน
“โครงการนี้ถือเป็นโครงการนำร่องชิ้นโบว์แดง ทั้งนี้กระทรวงอยู่ระหว่างการหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับทุกภาคส่วนเพื่อประกาศใช้มาตรการค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสาย ซึ่งจะต้องผ่านพ.ร.บ.ตั๋วร่วม โดยต้งเป้าหมายว่าผู้โดยสารจะได้ใช้บริการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายทุกเส้นทางภายใน 2 ปี”
นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันกระทรวงจะหารือร่วมกับกระทรวงพลังงานเพื่อจัดตั้งกองทุนตั๋วร่วม วงเงินประมาณ 7000-8000 ล้านบาท เพื่อนำเงินสนับสนุนเข้ากองทุนดังกล่าว คาดว่าจะใช้งบประมาณจากกองทุนอนุรักษ์พลังงาน โดยภาครัฐจะต้องหางบประมาณมาสนับสนุนค่าใช้จ่ายตามนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท ซึ่งมีแนวคิดใช้ภาษีสรรพสามิตน้ำมันเบนซินในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล ทำให้มีผลต่อราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้นกว่าปกติอยู่ที่ 50 สตางค์ต่อลิตร เพื่อจูงใจให้ประชาชนใช้ขนส่งสาธารณะเพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้ต้นทุนค่าโดยสารรถไฟฟ้าถูกลง
“ส่วนการเจรจากับเอกชนในการร่วมนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายนั้น ทางกระทรวงไม่ได้มีการบังคับภาคเอกชนให้ร่วมดำเนินการ เนื่องจากเอกชนมีสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าอยู่แล้ว ซึ่งภาครัฐไม่สามารถขอให้เอกชนลดราคาค่าโดยสารได้ ทำให้ต้องใช้พ.ร.บ.ตั๋วร่วม เข้ามาสนับสนุนในเรื่องนี้”
นายปัญญา ชูพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าโครงการศึกษาจัดทำแผนการกำกับการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม ปัจจุบัน สนข.อยู่ระหว่างจ้างบริษัทที่ปรึกษาศึกษาร่างพระราชบัญญัติการบริหารจัดการตั๋วร่วม พ.ศ. ... (พ.ร.บ.) ตั๋วร่วม ถึงการหาที่มาของแหล่งเงินในกองทุนตั๋วร่วมจะนำมาจากแหล่งทุนใด หากดำเนินการแล้วเสร็จ หลังจากนั้นจะเสนอร่างพ.ร.บ.ตั๋วร่วม พ.ศ. ... ต่อคณะกรรมการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม (คตร.) และกระทรวงคมนาคม โดยคาดว่าจะเสนอเข้าสภาผู้แทนราษฎรได้ในช่วงไตรมาสที่ 1 ปี 2567 เพื่อประกาศมีผลบังคับใช้ต่อไป