KEY
POINTS
"เศรษฐกิจโลก" เผชิญแนวโน้มการเติบโตลดลงและความไม่แน่นอนมาจาก ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ เงื่อนไขทางการเงินที่ตึงตัว และผลกระทบที่ก่อกวนจากปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI การสำรวจดังกล่าวจัดทำขึ้นทุกปีก่อนการประชุมประจำปีของ World Economic Forum 2024 (WEF) ในเมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ระหว่างวันที่ 15-19 ม.ค.2567
การประชุม WEF Annual Meeting ประจำปี 67 ครั้งที่ 54 จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ "Rebuilding Trust" เป็นเวทีที่มีลักษณะเฉพาะและมีความพิเศษ มีผู้เข้าร่วมทั้งที่เป็นผู้นำ หัวหน้าองค์การระหว่างประเทศ ผู้บริหารภาคธุรกิจ (CEOs) นักวิชาการ ตลอดจนผู้มีอิทธิพลทางความคิดระดับโลก ประมาณ 2,500 คนจากทั่วโลก
การสำรวจของนักเศรษฐศาสตร์กว่า 60 คนจากทั่วโลกที่มาจากความพยายามของภาคเอกชนและภาครัฐในการจัดลำดับความสำคัญสำหรับผู้กำหนดนโยบายและผู้นำทางธุรกิจ ผู้ตอบแบบสำรวจประมาณ 56% คาดว่าภาวะเศรษฐกิจโลกโดยรวมจะช้าตัวลงในปีนี้ โดยมีความแตกต่างในระดับภูมิภาคในระดับสูง แม้ว่าคนส่วนใหญ่จะเห็นการเติบโตในระดับปานกลางหรือแข็งแกร่งกว่าในจีนและสหรัฐอเมริกา แต่ก็มีความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่ายุโรปจะรวบรวมเฉพาะการเติบโตที่อ่อนแอหรืออ่อนแอมากเท่านั้น
แนวโน้มสำหรับ เอเชียใต้ เอเชียตะวันออก และแปซิฟิก ดูเหมือนจะเป็นบวกมากขึ้น โดยคนส่วนใหญ่คาดว่าจะเติบโตในระดับปานกลางเป็นอย่างน้อยในปี 2567 สะท้อนความเห็นจากธนาคารกลางชั้นนำของโลกที่เสนอแนะว่า "อัตราดอกเบี้ย" ถึงจุดสูงสุดแล้ว โดยผู้ตอบแบบสอบถาม 70% แต่คาดการณ์ว่าภาวะทางการเงินจะคลี่คลายลง เนื่องจาก "อัตราเงินเฟ้อ" ลดลงและความตึงเครียดในตลาดแรงงานในปัจจุบันผ่อนคลายลงด้วย
ส่วนปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI จะสร้างความไม่เท่าเทียมกันในเศรษฐกิจโลก โดย 94% คาดว่า AI จะเพิ่มผลิตภาพอย่างมีนัยสำคัญในประเทศที่มีรายได้สูงในอีก 5 ปีข้างหน้า มีเพียง 53% เท่านั้นที่คาดการณ์เช่นเดียวกันประเทศที่มีรายได้น้อย
WEF ยังเผยแพร่การศึกษาเกี่ยวกับ "คุณภาพ" ของการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วทั้ง 107 ประเทศ โดยสรุปว่าประเทศส่วนใหญ่กำลังเติบโตในลักษณะที่ "ไม่ยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อมและไม่ครอบคลุมทางสังคม" ซึ่งWEF กำลังเปิดตัวแคมเปญเพื่อกำหนดแนวทางใหม่ในการเติบโต และช่วยให้ผู้กำหนดนโยบายสร้างสมดุลกับลำดับความสำคัญทางสังคม สิ่งแวดล้อม และอื่นๆ