ทั้งนี้ใจความสำคัญระบุว่า ภายใต้รัฐบาลจีนชุดปัจจุบัน จีนไม่อัดฉีดบาซูก้าการคลัง ไม่แก้ปัญหาแบบเหวี่ยงแห สะเปะสะปะ แต่จะเน้นมาตรการส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศ โดยยังคงยึดโยงกับเป้าหมายระยะยาว เช่น การฟื้นฟูชนบท และมุ่งสู่เศรษฐกิจสีเขียวเน้นพลังงานสะอาด โดยโมเดลเศรษฐกิจสีจิ้นผิง (Xinomics) ไม่เน้นเติบโตแบบฉาบฉวย แต่เน้นมั่นคง
-มาตรการส่งเสริมการซื้อและขยายการบริโภครถยนต์พลังงานใหม่ (รถยนต์ EV)
-สนับสนุนความต้องการบ้าน/ที่พักอาศัย และกระตุ้นกิจกรรมตกแต่งบ้านและซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า
-กระตุ้นการบริโภคการบริการด้านอาหาร
-กระตุ้นสร้างการบริโภคเชิงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว
-ส่งเสริมระบบหยุดพักงานแบบไม่หักเงินเดือน
-ส่งเสริมการบริโภคเพื่อการบันเทิง การกีฬา งานนิทรรศการ
-เร่งขยายการบริโภคเพื่อบริการสุขภาพ
-ออกมาตรการส่งเสริมการบริโภคในชนบท
-ส่งเสริมการส่งสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสู่ชนบท
-ปรับปรุงระบบอีคอมเมิร์ซและโลจิสติกส์ในชนบท
-ผลักดันการส่งสินค้าที่มีเอกลักษณ์เป็นพิเศษไปท้องถิ่น และพัฒนาการท่องเที่ยวชนบทอย่างจริงจัง
ฯลฯ
ที่สำคัญ ปี 2566 นายกฯ หลี่เฉียงเป็นนายกฯ จีนคนใหม่ครั้งแรก จำเป็นต้องทุ่มเทสร้าง “ผลงานชิ้นโบว์แดง” ในปีแรกให้ออกมาสวยงาม จึงไม่มีวันยอมให้พลาดเป้า
ในที่สุด ผลงานปีแรกของนายกรัฐมนตรีจีนคนใหม่ ก็เป็นไปตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ ซึ่งนายกฯ หลี่เฉียงยอมรับตั้งแต่ต้นปี 2566 ว่า “ไม่ง่ายที่จะให้จีนเติบโต 5% ตามเป้าหมาย แต่มั่นใจ และต้องทุ่มเทให้มากกว่าเดิม แม้จะต้องเหนื่อยกว่าเดิมเป็น 2 เท่า”
อย่างไรก็ดี ในปีมังกร 2567 นี้ เศรษฐกิจจีนยังคงมีปัญหาค้างคาอีกหลายด้านที่ต้องเร่งแก้ไขต่อไป ทั้งปัญหาอสังหาริมทรัพย์ที่ยังไม่จบ ปัญหาหนี้รัฐบาลท้องถิ่น และปัญหาธนาคารเงา เป็นต้น