วันนี้ (23 มกราคม 2567) นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ หรือ ครม. สัญจร จังหวัดระนอง วันนี้ มีมติรับทราบร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 ตามที่คณะกรรมการแก้ไขปัญหาการประมงทางทะเล เสนอ โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สั่งการเพิ่มเติมให้นำกลับไปรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่ายโดยละเอียดอีกครั้ง ก่อนนำกลับมาเสนอครม.ครั้งหน้าพิจารณา
ทั้งนี้ยอมรับว่า ในการประชุมครม.สัญจรครั้งนี้ มีมติรับทราบร่างกฎหมายฉบับนี้แล้ว โดยเห็นด้วยกับเนื้อหาส่วนใหญ่ แต่ครม.เห็นว่า ขณะนี้ยังมีความเห็นของบางหน่วยงานที่ยังพิจารณาไม่ครบ นายกฯ จึงสั่งการให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องนำร่างกฎหมายที่เสนอมายัง ครม.ครั้งนี้ ให้นำกลับไปรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่ายโดยละเอียด ก่อนสรุปรายละเอียดมาเสนอให้ครม.พิจารณาอีกครั้งว่าจะอนุมัติหรือไม่
“กฎหมายนี้ถือเป็นกฎหายที่ชาวประมงทั่วประเทศ โดยเฉพาะชาวประมงพื้นบ้านได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง เพราะกฎหมายเดิมเน้นเรื่องการแก้ไขการทำผิดด้านประมง คือ เน้นการลงโทษไม่ได้เน้นการคุ้มครองและการประกอบอาชีพ อีกทั้งยังมีกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคมาก ซึ่งปัจจุบันมีการนำข้อเรียกร้องมาใช้ประกอบยกร่างกฎหมาย ซึ่งได้ผ่านการเห็นชอบรับฟังความเห็นแล้ว ก่อนนำมาเสนอครม.วันนี้” โฆษกรัฐบาล ระบุ
ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรี ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการประมงทะเล เพื่อฟื้นฟูการประมงทะเลและอุตสาหกรรมการประมง โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน มีผลตั้งแต่วันที่ 18 กันยายน 2566 เป็นต้นไป เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวประมงและสร้างรายได้ให้แก่ประเทศจากอุตสาหกรรม การประมงและกิจการต่อเนื่อง โดยเฉพาะการแก้ปัญหาการแจ้งเตือน (การให้ใบเหลือง) จากสหภาพยุโรปว่า ประเทศไทยอาจถูกระบุให้เป็นประเทศที่ไม่ให้ความร่วมมือในการต่อต้านการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (IUU FISHING)