เปิดช่อง กลุ่มซีพี ขอสิทธิประโยชน์จากอีอีซี ปลดล็อกสร้างไฮสปีดเทรน

วันนี้ (2 กุมภาพันธ์ 2567) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรือ EEC เปิดเผยถึงกรณีมีข่าวยื่นคำขาดโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินที่ก่อสร้างล้าช้า ว่า ยังไม่ถึงขั้นยื่นคำขาด เพราะอีอีซีไม่มีอำนาจไปบอกว่าจะยกเลิกสัญญา เป็นสัญญาระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กับบริษัทเอกชนคู่สัญญา (บริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด) อีอีซีเป็นเพียงดูแลและช่วยบริหารสัญญาให้ราบรื่นไปได้ คือ การขับเคลื่อนการก่อสร้าง อย่างไรก็ตามแม้จะมีความล่าช้า แต่โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินจำเป็นต้องมี 

“อีอีซีต้องการให้เริ่มก่อสร้าง แต่เงื่อนไขคือ ต้องได้รับบัตรส่งเสริมสิทธิประโยชน์จากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) รฟท.จึงจะสามารถแจ้งหนังสือให้เริ่มก่อสร้างได้ (Notice to Proceed:NTP) ถ้าไม่จบจะแจ้งให้เริ่มก่อสร้างไม่ได้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างบริษัทเอกชนคู่สัญญายื่นอุทธรณ์กับบีโอไอขอขยายเวลาการให้สิทธิประโยชน์ที่หมดไปตั้งแต่วันที่ 22 มกราคมที่ผ่านมา"นายจุฬากล่าว

นายจุฬากล่าวว่าอย่างไรก็ดี บริษัทเอกชนคู่สัญญาสามารถขอสิทธิประโยชน์จากบีโอไอใหม่ได้ หรือจะขอสิทธิประโยชน์จากอีอีซี ซึ่งมากกว่าบีโอไอก็สามารถทำได้ 

“ทางรฟท.ไปถามอัยการแล้วและตอบมาว่า คณะกรรมการกำกับสัญญา ที่มีรองผู้ว่า รฟท.เป็นประธาน มีอำนาจพิจารณาไปได้เอง ว่าจะตัดเงื่อนไขต้องมีบัตรสิทธิประโยชน์จากบีโอไอหรือไม่ และส่งความเห็นไปที่ รฟท.ในฐานะเป็นคู่สัญญากับบริษัทเอกชนที่เป็นผู้ออกหนังสือเริ่มก่อสร้าง”นายจุฬากล่าวและว่า

“ถ้าบีโอไอยังยืนยันไม่ต่ออายุสิทธิประโยชน์ให้กับบริษัทเอกชนคู่สัญญา เขา (บริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด) ก็ต้อง take action ต่อ เพราะรู้ว่า คณะกรรมการกำกับสัญญาต้องเป็นคน kickoff ต่อ รับลูกต่อ ว่าจะไปอย่างไรต่อ และเมื่อมีความเห็นอย่างไรก็ต้องส่งไปที่ รฟท. ถ้าเห็นด้วยว่าจะทำอย่างไรก็แจ้ง (ให้เริ่มก่อสร้าง) แจ้งเสร็จ ถ้าเขาไม่เริ่มจะทำให้กระทบสัญญา หรือเขาไม่รับก็จะกระทบกับสัญญา ตรงนั้นจะคุยกันไม่รู้เรื่อง อาจจะไปถึงปลายทางของมัน มากสุด หรือ แย่สุดก็คือ เลิกสัญญา”นายจุฬากล่าว