พาณิชย์ ลงพื้นที่ จ.ปัตตานี เยี่ยมธุรกิจชุมชน 3 กลุ่ม รับฟังปัญหา

03 มี.ค. 2567 | 04:25 น.
อัปเดตล่าสุด :03 มี.ค. 2567 | 04:53 น.

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่ จ.ปัตตานี ตรวจเยี่ยมผู้ประกอบการชุมชน 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ แปรรูปอาหารทะเล สมุนไพร และค้าส่งค้าปลีก เก็บทุกรายละเอียดข้อเสนอแนะ นำมาวางแผนส่งเสริมพัฒนาผู้ประกอบการเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนใต้

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 29 ก.พ. - 2 มี.ค. 67 ได้นำคณะผู้บริหารลงพื้นที่ จ.ปัตตานี เพื่อดำเนินกิจกรรมสร้างความเข้มแข็งให้ผู้ประกอบการชายแดนใต้ เช่น กิจกรรมลงนามความร่วมมือส่งเสริมสนับสนุนผู้ประกอบการกลุ่มสตรี 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กิจกรรมการเจรจาธุรกิจระหว่างเทรดเดอร์/บายเออร์จากส่วนกลางกับผู้ประกอบการกลุ่มสตรี 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้ประกอบการชุนชน จ.พัทลุง และ จ.สงขลา 

รวมทั้ง ได้ลงพื้นที่พบปะผู้ประกอบการ 3 กลุ่มธุรกิจ เพื่อหารือแนวทางการส่งเสริมสร้างความยั่งยืนแก่ภาคธุรกิจ , รับฟังปัญหา/อุปสรรค ข้อเสนอแนะด้านต่างๆ และสอบถามความต้องการได้รับความช่วยเหลือสนับสนุนจากภาครัฐ 

โดยกลุ่มธุรกิจแรก ธุรกิจแปรรูปอาหารทะเล ตรวจเยี่ยม 1 แห่ง ได้แก่ บริษัท มาเรียโอเชี่ยน จำกัด เป็นธุรกิจแปรรูปอาหารทะเล ตั้งอยู่ที่ อ.ยะหริ่ง สามารถช่วยให้กลุ่มชาวประมงในพื้นที่ขายวัตถุดิบได้ในราคาที่สูงขึ้น เน้นการจ้างงานคนในพื้นที่เป็นหลัก โดยปัจจุบัน มาเรียโอเชี่ยนส่งอาหารทะเลแปรรูปไปจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ ด้วยการนำผลกำไรที่ได้ส่วนหนึ่งกลับมาพัฒนาชุมชนและคนในพื้นที่ให้มีความเข้มแข็งและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น 

บริษัท มาเรียโอเชี่ยน จำกัด พาณิชย์ ลงพื้นที่ จ.ปัตตานี เยี่ยมธุรกิจชุมชน 3 กลุ่ม รับฟังปัญหา

กลุ่มธุรกิจที่ 2 ธุรกิจสมุนไพร ตรวจเยี่ยม 2 แห่ง ได้แก่ (2.1) เครือข่ายปลูกสมุนไพรลังกาสุกะ ตั้งอยู่ที่ อ.ยะหริ่ง โดยสมุนไพรที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยม ได้แก่ ฟ้าทะลายโจร ซึ่งสามารถปลูกและเจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

ลังกาสุกะ ได้รับการพัฒนาให้เป็น ‘ลังกาสุกะโมเดล’ ที่เข้ามามีบทบาทพัฒนาด้านสาธารณสุขตั้งแต่ปี 2551 โดยนำหลักแพทย์แผนไทยมาใช้ในพื้นที่ เพื่อแก้ไขปัญหาด้านสุขภาพให้คนในชุมชนสามารถเข้าถึงบริการสาธารณสุขที่มีคุณภาพและยาสมุนไพรในราคาไม่แพง

รวมถึงช่วยสร้างงาน สร้างอาชีพแก่คนในพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม โดยใช้กระบวนการทำงานแบบมีส่วนร่วม ส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือของเครือข่ายอย่างแนบแน่น ทำให้ชุมชนมีความเข้มแข็งอย่างแท้จริง ในอนาคตจะมีการพัฒนายาสมุนไพรให้เป็นสินค้า ‘พรีเมียม โปรดักส์’ นำไปสู่การเป็นธุรกิจเพื่อสังคมที่ช่วยแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจ แก้ปัญหาทางสังคม และสร้างความยั่งยืนให้ชุมชนอย่างยั่งยืน

เครือข่ายปลูกสมุนไพรลังกาสุกะ พาณิชย์ ลงพื้นที่ จ.ปัตตานี เยี่ยมธุรกิจชุมชน 3 กลุ่ม รับฟังปัญหา

ขณะเดียวกันยังได้เยี่ยม (2.2) บริษัท ศยาสมุนไพร จำกัด ตั้งอยู่ที่ อ.เมืองปัตตานี เป็นนิติบุคคลที่มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตนเองมาอย่างต่อเนื่อง ภายใต้แบรนด์ ‘ศยาสมุนไพร’ ปัจจุบันจะผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่เป็นเครื่องสำอางสมุนไพรและผลิตภัณฑ์สำหรับร่างกาย เช่น โรลออน แชมพู สบู่ โลชั่น ยาดม น้ำมันเหลือง น้ำมันนวด และน้ำมันมะพร้าว 

นอกจากนี้ ยังรับสร้างแบรนด์ให้กับลูกค้าที่ต้องการเริ่มต้นหรือต่อยอดธุรกิจ โดยจะเข้าไปช่วยผลิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์จนผ่านการรับรองมาตรฐานจาก อ.ย. มผช. (มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน) OTOP (โครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ไทย) เครื่องหมายฮาลาล และได้รับรางวัล OTOP 4 ดาว ประจำปี พ.ศ.2562 (สำหรับแชมพู สมุนไพรและโรลออนศยา) ช่วยให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่า ศยาสมุนไพรเป็นแบรนด์คุณภาพ ลูกค้าสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพได้อย่างปลอดภัย

พาณิชย์ ลงพื้นที่ จ.ปัตตานี เยี่ยมธุรกิจชุมชน 3 กลุ่ม รับฟังปัญหา บริษัท ศยาสมุนไพร จำกัด

และธุรกิจกลุ่มที่ 3 ธุรกิจค้าส่ง-ค้าปลีก ตรวจเยี่ยม 1 แห่ง คือ บริษัท ภรณ์นิเวศน์ ซุปเปอร์สโตร์ จำกัด ผู้ประกอบการห้างซุปเปอร์ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ ตั้งอยู่ อ.เมืองปัตตานี เป็นธุรกิจค้าส่ง-ค้าปลีกท้องถิ่นที่ดำเนินธุรกิจในพื้นที่มานานกว่า 37 ปี ปัจจุบันมีสัดส่วน คือ ธุรกิจค้าส่ง 40% และ ค้าปลีก 60% ส่วนใหญ่เป็นสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิต เน้นขายสินค้าที่ดีมีมาตรฐาน ราคาประหยัด 

โดยมีการส่งเสริมการขายในรูปแบบต่างๆ เพื่อดึงดูดประชาชนเข้ามาใช้บริการและซื้อสินค้า การบริหารจัดการธุรกิจจะให้ความสำคัญต่อลูกค้าเป็นลำดับแรก และเปิดโอกาสให้พนักงานภายในร้านมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น ทั้งนี้ พนักงานถือเป็นส่วนสำคัญในการทำให้แผนกลยุทธถูกนำไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ อันจะทำให้องค์กรบรรลุตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 

ปัจจุบันมีสมาชิกเครือข่ายร้านค้าปลีกประมาณ 50 ร้านค้า และคอยให้คำปรึกษาแนะนำการบริหารจัดการให้แก่ร้านค้าปลีกที่เป็นสมาชิกด้วย บริษัท ภรณ์นิเวศน์ ซุปเปอร์สโตร์ จำกัด ได้เข้าร่วมโครงการพัฒนายกระดับมาตรฐานการบริหารจัดการธุรกิจค้าส่งค้าปลีกกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เมื่อปี 2559 และให้ความร่วมมือในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ กับกรมฯ มาอย่างต่อเนื่อง 

พาณิชย์ ลงพื้นที่ จ.ปัตตานี เยี่ยมธุรกิจชุมชน 3 กลุ่ม รับฟังปัญหา บริษัท ภรณ์นิเวศน์ ซุปเปอร์สโตร์ จำกัด

ทั้งนี้ หลังจากที่ได้รับฟัง พูดคุยถึงรายละเอียด ปัญหา-อุปสรรคของผู้ประกอบการ รวมทั้ง ความต้องการได้รับความช่วยเหลือสนับสนุนจากภาครัฐของทั้ง 3 ธุรกิจแล้ว ก็จะทำการสรุปความต้องการของภาคธุรกิจ พร้อมจัดทำแผนพัฒนาและสนับสนุนธุรกิจแต่ละพื้นที่อย่างครบวงจร โดยเน้นความร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและภาคธุรกิจ พร้อมทั้งจะส่งเสริมให้ภาคธุรกิจนำนวัตกรรมมาใช้เป็นเครื่องมือเพิ่มรายได้ให้กับธุรกิจและประชากรในชุมชน ซึ่งผลจากการลงพื้นที่ในครั้งนี้ ยิ่งมีความเชื่อมั่นว่า ‘ธุรกิจท้องถิ่น’ เป็นแหล่งจ้างงานที่สำคัญในพื้นที่ และเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่นให้มีความเข้มแข็ง

 ขอเชิญชวนนักธุรกิจให้เข้ามาลงทุนใน จ.ปัตตานี เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีความพร้อมทุกด้าน ทั้งศักยภาพของผู้คนในชุมชน แหล่งทรัพยากรในพื้นที่ที่สมบูรณ์ ภาคีเครือข่ายธุรกิจที่เข้มแข็ง สิ่งอำนวยความสะดวกและโครงสร้างพื้นฐานที่เอื้อต่อการลงทุน และที่สำคัญ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ลดอัตราค่าธรรมเนียมจดทะเบียนธุรกิจลง 50% เป็นระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่ 1 มกราคม 2567 ถึง 31 ธันวาคม 2569 ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ 5 จังหวัด ได้แก่ ปัตตานี นราธิวาส ยะลา สตูล และสงขลา (เฉพาะอำเภอจะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย) เพื่อบรรเทาค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจ ดึงดูดนักธุรกิจให้เข้าลงทุนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจระยะยาว

ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567) มีนิติบุคคลคงอยู่จำนวนทั้งสิ้น 1,678 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 9,454.66 ล้านบาท ประเภทธุรกิจ 5 อันดับแรก ได้แก่ 

  1. ก่อสร้างทั่วไป 391 ราย ทุน 1,907.10 ล้านบาท 
  2. การขายปลีกเชื้อเพลิงยานยนต์ในร้านค้าเฉพาะ สถานี ปั๊ม 51 ราย ทุน 290.70 ล้านบาท 
  3. ธุรกิจจัดนำเที่ยว 51 ราย ทุน 72.55 ล้านบาท 
  4. ร้านขายปลีกเครื่องประดับ 37 ราย ทุน 564.60 ล้านบาท 
  5. การติดตั้งไฟฟ้า 32 ราย ทุน 41.00 ล้านบาท

สามารถแบ่งเป็นขนาดธุรกิจได้ ดังนี้ 

  1. ธุรกิจขนาดเล็ก (S) 1,554 ราย ทุน 5,985.89 ล้านบาท 
  2. ธุรกิจขนาดกลาง (L) 96 ราบ ทุน 2,352.47 ล้านบาท
  3. ธุรกิจขนาดใหญ่ 28 ราย ทุน 1,116.30 ล้านบาท